แม้ 2 มหาอำนาจสหรัฐ-จีน ปิดดีลเจรจา โดยสหรัฐเคาะเก็บภาษีจีน 55% จีนเก็บสหรัฐ 10% แลกปิดดีลแร่หายาก ชิป วีซ่านักเรียนกับจีน
ดร.กอบศักดิ์ เตือนสงครามการค้าไม่จบลงง่ายๆ เตือน SME ไทยเตรียมรับศึกหนัก ขณะที่ภาคเอกชนยังคงลุ้นรัฐบาลเร่งเจรจาสหรัฐลดภาษีลงอีก 36% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ หมายความว่า ณ วันนี้ ไทยเหลือเวลาที่จะเปิดการเจรจาไม่ถึงเดือน
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “Dr.KOB” ว่า ถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนว่า “ปิดดีลจีน-โดน Tariff สหรัฐที่ 55% !!” โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ สรุปข้อตกลงล่าสุดให้โลกฟังว่า หลังเจรจากัน 2 ครั้ง สหรัฐจะได้เข้าถึง rare earths (แร่หายาก) , magnets ส่วนจีนจะได้ชิป และวีซ่าสำหรับนักเรียนจีน โดยสหรัฐคิดภาษีจีน 55% และจีนคิดภาษีสหรัฐ 10%
“ทั้งหมดรอการพิจารณาของท่านประธานาธิบดีสี (จิ้นผิง) ซึ่งจะมีนัยกับไทย เพราะจากที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เคยบอกไว้เสมอ 36% คืออัตราสูงสุดสำหรับไทย หมายความว่า ต่อให้เราไม่ได้ลดเลยที่อัตรานี้ เราจะยังได้เปรียบสินค้าจีนประมาณ 20% ถ้าเรามีข้อเสนอที่ดี สหรัฐพอใจก็คงจะลดให้จากอัตราดังกล่าวบ้าง”
ซึ่งหากไทยสามารถเจรจา 1.ได้เหลือ 10-20% 2.ไม่ต่างจากคู่แข่งของเรามากนัก ในสงครามการค้าโลกรอบนี้ ประเทศไทยก็ถือว่าพอไปได้ ส่งออกไทยก็น่าจะมีทางออก ในช่วงครึ่งหลังของปี สามารถไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิด 5 ข้อเสนอที่ขุนคลังสหรัฐฯ เอ่ยปากชมไทย อัปเดตประเทศไหนเจรจาไปแล้วบ้าง?
- แร่หายากกลายเป็น ‘อาวุธลับ’ สงครามการค้าของ 8 ชาติ! รถยุโรป-ญี่ปุ่น เสี่ยงหยุดผลิต…
- รู้จัก ‘Alaska LNG’ ขุมทรัพย์พลังงานใต้วาฬขาว กับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น และไทย?
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจีนโดน 55% “China Flooding” ก็จะเป็นปัญหาให้ไทยหนักใจ คงต้องเตรียมมาตรการช่วย SMEs ในประเทศรับมือบรรเทาผลกระทบและเร่งหาตลาดใหม่ให้สินค้าไทย เพื่อให้ไทยลดสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐให้เหลือ 10% จากปัจจุบันที่ 18.3% จะได้ไม่ต้องเป็นลูกไล่ของเขา เพราะยังจะวุ่นวายอย่างนี้ไปอีกหลายปี
ด้านธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยยังคงประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ขยายตัวอยู่ในกรอบ 1.5-2%
ลุ้นรัฐบาลเร่งเจรจา ห่วงเศรษฐกิจถดถอย GDP ไทยโตต่ำ 1%
โดยหนึ่งในปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจไทยคือ มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ โดยเฉพาะเวลานี้ใกล้จะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2568
“หลายประเทศยังอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งยังไม่มีประเทศไหนที่เจรจาสำเร็จมากนัก หอการค้าไทยจึงประเมิน ความเสียหายที่จะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย เบื้องต้น มูลค่าจะหายไปราว1.5-2 แสนล้านบาท ซึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเรื่องนี้มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งผู้บริโภค และภาคเอกชน เพราะอาจจะกระทบทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยมีโอกาสโตต่ำกว่า 1% ได้ หากภาษีสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง 36%”
ดังนั้น สิ่งที่ภาครัฐจะต้องเร่งดำเนินการคู่ขนานคือ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบ 1.75 แสนล้านบาท โดยเร็ว รวมไปถึงมาตรการทางการเงิน ลดดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างหนี้ เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวตามเป้า 35 ล้านคน
พร้อมทั้งเร่งให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การการปกครองส่วนท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งหากสามารถดำเนินการ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในกรอบได้
ทั้งนี้ หากดูผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนพฤษภาคม 2568 นั้นก็จะพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 54.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
“ประชาชนและภาคเอกชนยังกังวลภาษีสหรัฐและการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ดังนั้นปีนี้ห่วงว่า เศรษฐกิจไทย มีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย” ดร.ธนวรรธน์ ทิ้งท้าย
นับถอยหลังไทยสรุปผลเจรจาสหรัฐ ก่อนขีดเส้นตาย 8 ก.ค.
รายงานข่าวระบุว่า ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่าง ไทยกับสหรัฐ อยู่ระหว่างเตรียมเดินทางไปหารือ โดย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นหัวหน้าคณะเจรจาทีมไทยแลนด์ ซึ่งล่าสุดสหรัฐตอบรับนัดหมายแล้ว ภายใต้กรอบการเจรจา 5 ประเด็น
ทั้งนี้ การเก็บภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ หรือเหลือเวลาที่จะเปิดการเจรจาไม่ถึงเดือน
ภาพ: photovs / Getty Images, wildpixel / Getty Images