รัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมด้วยสหราชอาณาจักรและแคนาดา ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านตุลาการของเมียนมา เพื่อตอบโต้การดำเนินคดี ออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือน โดยกล่าวหาว่าเป็นการดำเนินคดีภายใต้แรงจูงใจทางการเมือง
การประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการของเมียนมาครั้งนี้ เกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบ 1 ปี ที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งซูจีและนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลหลายคนถูกจับกุมและกักตัวไว้ในสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผยจนถึงวันนี้ ขณะที่ซูจีถูกดำเนินคดีและได้รับการตัดสินโทษจำคุกในหลายข้อหา
โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร ธิดา อู อัยการสูงสุดของเมียนมา พร้อมด้วย ตุน ตุน อู หัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา และ อู ทิน อู ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งสหรัฐฯ ชี้ว่าทั้งสามมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการดำเนินคดีต่อซูจี ซึ่งเป็นไปภายใต้แรงจูงใจทางการเมือง
ขณะที่สหราชอาณาจักรประกาศว่า ได้ดำเนินการคว่ำบาตรอัยการสูงสุดและหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกาของเมียนมา พร้อมด้วย อู เตง โซ อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งภายหลังการรัฐประหาร
ส่วนแคนาดาประกาศคว่ำบาตร 3 เจ้าหน้าที่ตุลาการเมียนมาในรายชื่อเดียวกับวอชิงตัน โดยระบุว่าทั้งสามคน ‘ใช้บทบาทหน้าที่ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในการละเมิดหลักนิติธรรมและกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดการละเมิดสันติภาพระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และบั่นทอนสถานการณ์ความมั่นคงให้เลวร้ายลง’
ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ภายหลังประกาศคว่ำบาตร โดยระบุว่า การคว่ำบาตรฝ่ายตุลาการของเมียนมาครั้งนี้ เป็นการประสานงานกันกับสหราชอาณาจักรและแคนาดา เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอันแข็งแกร่งของประชาคมโลกที่มีต่อประชาชนเมียนมา และเพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบต่อการทำรัฐประหารและความรุนแรงที่กระทำโดยรัฐบาลเผด็จการ พร้อมประกาศเดินหน้ากดดันรัฐบาลทหารเมียนมาให้ยุติการใช้ความรุนแรงและปล่อยตัวผู้ถูกกักขังอย่างไม่เป็นธรรม
“สหรัฐฯ จะเดินหน้าทำงานร่วมกับชาติพันธมิตร เพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมาและกดดันรัฐบาลเผด็จการให้ยุติการใช้ความรุนแรงและปล่อยตัวผู้ที่ถูกกักขังอย่างไม่ยุติธรรม ตลอดจนอนุญาตให้มีการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างไม่มีอุปสรรค และฟื้นฟูเส้นทางสู่ประชาธิปไตยของเมียนมา” บลิงเคนกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังเพิ่มการคว่ำบาตรผู้นำภาคธุรกิจและบริษัทหลายแห่งที่ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทัพเมียนมา ซึ่งรวมถึง โจนาธาน เมียว จ่อ ตาวง์ ซีอีโอของ KT Group ที่บริหารท่าเรือในนครย่างกุ้งและเตย์ ซา เจ้าของบริษัทหลายแห่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าให้การสนับสนุนอาวุธแก่กองทัพเมียนมา
โดยผู้ถูกคว่ำบาตรทั้งหมดจะถูกอายัดทรัพย์สินที่อยู่ภายในเขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ และห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำธุรกิจกับพวกเขา
ภาพ: Photo by Jose Lopes Amaral/NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
