×

‘กำแพงภาษี’ ถล่มยานยนต์สหรัฐฯ ค่ายรถอ่วม ผู้บริโภคกระเป๋าฉีก ยอดขายอาจหาย 2 ล้านคันต่อปี

14.04.2025
  • LOADING...
us-auto-tariff-impact

แม้ Donald Trump จะผ่อนคลายมาตรการภาษีบางส่วนในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ ‘กำแพงภาษี 25%’ สำหรับรถยนต์นำเข้ายังคงอยู่ ส่งผลให้วงการยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

 

นักวิเคราะห์จาก Wall Street และผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมยานยนต์เตือนถึงผลกระทบรุนแรง ทั้งยอดขายที่จะดิ่งลงหลายล้านคัน ราคารถที่จะพุ่งสูงขึ้น รวมถึงภาระต้นทุนมหาศาลกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

 

Felix Stellmaszek จาก Boston Consulting Group ส่งสัญญาณเตือนผ่าน CNBC ว่า “สิ่งที่เรากำลังเห็นคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน นี่อาจเป็นปีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการยานยนต์ เพราะมันบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรากฐานในวิธีการและสถานที่ผลิตของอุตสาหกรรมทั้งหมด”

 

BCG ประเมินว่าภาษีนี้จะฉีกกระเป๋าอุตสาหกรรมปีละ 1.1-1.6 แสนล้านดอลลาร์ กระทบ 20% ของรายได้ตลาดรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ ขณะที่ Center for Automotive Research คาดว่าผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ จะแบกรับภาระหนักถึง 1.077 แสนล้านดอลลาร์ โดย ‘สามยักษ์’ แห่งดีทรอยต์ ทั้ง General Motors, Ford Motor และ Stellantis จะแบกรับต้นทุนรวมกันถึง 4.19 หมื่นล้านดอลลาร์

 

นักวิเคราะห์ไม่ได้มองแค่ภาษี 25% สำหรับรถยนต์นำเข้าที่เริ่มใช้เมื่อ 3 เมษายน แต่ยังรวมถึงภาษีชิ้นส่วนยานยนต์อีก 25% ที่จะเริ่มบังคับใช้ภายใน 3 พฤษภาคมนี้

 

Mark Delaney นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ประเมินว่า “ภาษีตามที่เสนอจะทำให้ต้นทุนทั้งการนำเข้าและการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างน้อยในระดับพันดอลลาร์ และคงยากมากที่จะผลักภาระทั้งหมดไปยังผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังซื้อกำลังอ่อนแรง” Goldman Sachs คาดว่าราคารถยนต์ใหม่จะพุ่งขึ้น 2,000-4,000 ดอลลาร์ ภายใน 6-12 เดือนข้างหน้า

 

วงการยานยนต์ต่างตอบโต้นโยบายนี้ในหลากหลายรูปแบบ ค่ายรถที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น Ford และ Stellantis รีบออกแคมเปญให้ลูกค้าซื้อรถในราคาพนักงาน ขณะที่ Jaguar Land Rover ถึงขั้นหยุดการจัดส่งรถไปยังสหรัฐฯ ด้าน Hyundai Motor ประกาศว่าจะไม่ขึ้นราคาอย่างน้อยสองเดือน

 

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตามการสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 เมษายน) แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นดิ่งลงเกินคาด ขณะที่ระดับเงินเฟ้อที่คาดการณ์พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981

 

Telemetry คาดการณ์ว่าภาวะต้นทุนที่พุ่งสูงจะกดดันให้ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ และแคนาดาหายไปกว่า 2 ล้านคันต่อปี Sam Abuelsamid รองประธานฝ่ายข้อมูลเชิงลึกกล่าวว่า “การหายไปของยอดขาย 2 ล้านคันจะสร้างแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง เพราะราคาที่สูงขึ้นไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่สินค้าทุกชนิด ซึ่งจะกระเทือนกำลังซื้อของประชาชน”

 

อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 9.64% สำหรับรถใหม่ และเกือบ 15% สำหรับรถมือสอง ขณะที่ราคาเฉลี่ยรถยนต์ใหม่อยู่ที่เกือบ 50,000 ดอลลาร์

 

Jonathan Smoke จาก Cox Automotive ให้ภาพที่น่าวิตกว่า “เราจะเห็นส่วนลดหายไป ราคาพุ่งพรวด ในระยะยาวการผลิตและยอดขายจะทรุดตัว ราคามือสองจะพุ่ง และรถบางรุ่นอาจหายไปจากตลาด”

 

Cox ประเมินว่า รถนำเข้าจะมีราคาพุ่งขึ้น 6,000 ดอลลาร์จากภาษี 25% สำหรับรถที่ประกอบนอกสหรัฐฯ ส่วนรถที่ประกอบในสหรัฐฯ จะราคาเพิ่มขึ้น 3,600 ดอลลาร์จากภาษีชิ้นส่วน ยังไม่รวมการเพิ่มขึ้นอีก 300-500 ดอลลาร์จากภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม

 

ภาพ: Kristi Blokhin / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising