×

เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย

โดย THE STANDARD TEAM
04.02.2024
  • LOADING...

กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมาย 85 แห่งในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธที่ใช้โดรนโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดนจนเป็นเหตุให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

 

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่กองกำลังกุดส์ (Quds Force) ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) และกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตร

 

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า การโจมตีของสหรัฐฯ “จะดำเนินต่อไปตามเวลาและสถานที่ที่เราเลือก”

 

เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับปฏิบัติการของสหรัฐฯ ในครั้งนี้

 

แถลงการณ์จากกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) ระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ (เวลา 04.00 น. วันเสาร์ ตามเวลาไทย) ซึ่งตรงกับเวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นของภูมิภาค

 

ในปฏิบัติการครั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินหลายลำ หนึ่งในนั้นรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล B-1 ที่บินตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ทั้งยังใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงอีกนับร้อย เพื่อโจมตีเป้าหมายทั้งหมด 85 แห่ง ใน 7 พื้นที่ แถลงการณ์ระบุ

 

นายพลดักลาส ซิมส์ แห่งกองทัพสหรัฐฯ กล่าวว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1 บินตรงจากสหรัฐฯ แบบไม่แวะจอด พร้อมเสริมว่า สหรัฐฯ ‘ค่อนข้างมั่นใจ’ ว่าเป้าหมายที่โจมตีนั้นมีนัยสำคัญอย่างมากต่อการลดระดับความสามารถของกลุ่มติดอาวุธ

 

เป้าหมายที่ถูกโจมตีมีอะไรบ้าง 

 

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้เหตุผลของปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ว่า เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนของขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลาม (Islamic Resistance Movement) ซึ่งมีฐานอยู่ในอิรักและซีเรีย และมีกองกำลังกุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาอาวุธ เงินทุน และการฝึกอบรม

 

การโจมตีกินเวลานานกว่า 30 นาที โดยมุ่งเป้าหมายไปยังสถานที่ 7 แห่ง ประกอบด้วย 4 แห่งในซีเรีย และ 3 แห่งในอิรัก 

 

เป้าหมายที่ถูกโจมตีนั้นรวมถึงศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุม คลังอาวุธของกลุ่มติดอาวุธและ IRGC ซึ่งสนับสนุนการโจมตีกองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตร ตลอดจนศูนย์กลางโลจิสติกส์และสถานที่จัดเก็บโดรน 

 

สำนักข่าว AFP รายงานอ้างข้อมูลจากองค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ที่ระบุว่า นักรบที่สนับสนุนอิหร่านอย่างน้อย 13 คนถูกสังหารในซีเรียตะวันออก

 

อย่างไรก็ดี ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้นบนแผ่นดินอิหร่าน อีกทั้งเรือรบของอิหร่านในทะเลแดง ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนช่วยเหลือกลุ่มฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์นั้น ไม่ใช่เป้าหมายของปฏิบัติการของสหรัฐฯ ในครั้งนี้

 


บทความที่เกี่ยวข้อง:


 

 

รีพับลิกันวิจารณ์ ไบเดนตอบโต้ช้าเกินไป 

 

ในแถลงการณ์ที่ออกโดยทำเนียบขาว ไบเดนกล่าวว่า “สหรัฐฯ ไม่แสวงหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางหรือที่อื่นใดในโลก” แต่ขณะเดียวกันก็เตือนใครก็ตามที่พยายามทำลายสหรัฐฯ ว่า “หากคุณทำร้ายชาวอเมริกัน เราจะตอบโต้”

 

ปฏิบัติการโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรียเกิดขึ้นหลังจากที่ไบเดนเข้าร่วมพิธีส่งร่าง วิลเลียม ริเวอร์ส วัย 46 ปี, เคนเนดี แซนเดอร์ส วัย 24 ปี และ บรีออนนา มอฟเฟตต์ วัย 23 ปี กลับสู่มาตุภูมิ

 

นอกจากทหาร 3 นายที่เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารอีกกว่า 40 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน 

 

ขณะที่พรรครีพับลิกันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปฏิบัติการโจมตีในอิรักและซีเรียนั้นล่าช้าเกินไป 

 

“การโจมตีเหล่านี้น่าจะเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ทหารของเราถูกสังหาร” ไบรอน โดนัลด์ส สส. ฟลอริดา จากพรรครีพับลิกัน กล่าวกับ Fox News  

 

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้แจงสาเหตุของความล่าช้าว่า เป็นเพราะสภาพอากาศที่มีเมฆหนาทึบบดบังเป้าหมาย ทำให้ไม่สามารถเปิดปฏิบัติการได้

 

อิหร่านและกองกำลังติดอาวุธจะตอบโต้หรือไม่

 

“เราจะไม่เพิกเฉยต่อภัยคุกคามใดๆ” พล.ต. ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเมื่อวันพุธ (31 มกราคม) ก่อนที่ปฏิบัติการตอบโต้ของสหรัฐฯ จะเปิดฉากขึ้น

 

คำกล่าวของเขามีขึ้นหนึ่งวันหลังจาก อามีร์ ซาอีด อิราวานี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าวกับกลุ่มนักข่าวอิหร่านในนิวยอร์กว่า เตหะรานจะ ‘ตอบสนองอย่างเด็ดขาด’ ต่อการโจมตีใดๆ ก็ตามที่มีต่ออิหร่าน

 

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า อิหร่านอาจตอบโต้แบบเดียวกับเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารพลเอก กัสเซม โซเลมานี โดยในครั้งนั้นอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรีย 5 วัน หลังจากที่ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ 

 

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนการตอบโต้ดังกล่าว อิหร่านได้แจ้งให้สหรัฐฯ ทราบล่วงหน้าหลายชั่วโมง

 

ขณะที่ในการโจมตีของสหรัฐฯ ครั้งนี้ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังการโจมตีว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับอิหร่านตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดนด้วยโดรน 

 

ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การที่สหรัฐฯ ปล่อยเวลาให้ล่วงมากว่า 1 สัปดาห์นั้น อาจเป็นเพราะต้องการให้อิหร่านถอนกำลังพลออก อันจะเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในวงกว้างได้

 

สหรัฐฯ จะตัดสินใจโจมตีอิหร่านหรือไม่?

 

แม้ว่ากลุ่มติดอาวุธที่โจมตีทหารอเมริกันในจอร์แดนจะได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมถึงนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ปฏิบัติการของสหรัฐฯ จะจำกัดวงอยู่แค่ในอิรักและซีเรีย โดยไม่เลือกโจมตีเข้าไปในเขตอธิปไตยของอิหร่าน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายวง

 

แฟ้มภาพ: Larry Marano / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X