หากนึกถึงบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสอันเป็นเทศกาลสำคัญของคริสตศาสนิกชนซึ่งใกล้จะเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราคงต้องนึกถึงแสงไฟ กล่องของขวัญ ซานตาคลอส หรือแม้แต่ปาร์ตี้สนุกๆ
ในช่วงนี้แต่ละบ้านและห้างร้านต่างๆ เริ่มทยอยประดับประดาของตกแต่งที่ช่วยส่งเสริมให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเทศกาลมากขึ้น และแน่นอนว่าของตกแต่งชิ้นเด่นที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘ต้นคริสต์มาส’ แต่ครั้นจะมาตกแต่งแบบธรรมดาๆ ก็คงจะดูเชยเกินไปในยุคนี้ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าในยุโรปและอเมริกากำลังตื่นเต้นกับเทรนด์ฮิตเทรนด์ใหม่ คือการนำเอาต้นคริสต์มาสทั้งต้นมาห้อยหัวลงประหนึ่งโลก upside down ใน Stranger Things อย่างนั้นแหละ!
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องราวในซีรีส์แต่อย่างใด เพราะเมื่อการกลับหัวต้นคริสต์มาสเริ่มต้นขึ้นก็ดูเหมือนว่าจะมีประเด็นร้อนๆ ออกมาให้ติดตามกัน ทั้งเรื่องของคนหัวเก่า เรื่องความสวยงาม รวมไปถึงประเด็นการเมืองที่แอบแซะโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างหน้าตาเฉย
THE STANDARD ชวนคุณไปสำรวจเทรนด์ใหม่นี้ให้ได้รู้ว่า เพียงแค่กลับหัวต้นไม้จากยอดลงสู่พื้น มันก่อให้เกิดประเด็นอะไรขึ้นบ้าง?
Upside Down
ต้นคริสต์มาสกลับหัวขึ้นแท่นเป็นสินค้ายอดฮิตในช่วงนี้ โดยคุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ จริงๆ แล้วหากเลือกพิจารณาเฉพาะในแง่ของคุณสมบัติ เราพบว่าการเลือกซื้อต้นคริสต์มาสกลับหัวมาประดับบ้านคือสินค้าชิ้นยอดที่จะช่วยให้คุณลดการใช้พื้นที่ในบ้านได้มากโขทีเดียว นี่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะการห้อยฐานต้นคริสต์มาสติดไว้กับเพดานแทนที่จะตั้งบนพื้นนั้นมีมาช้านานแล้ว โดยผูกโยงเข้ากับเรื่องของศาสนาคริสต์มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษต้นๆ
กำลังเป็นที่พูดถึง
เมื่อสัปดาห์ก่อน เราพบว่าผู้คนในทวิตเตอร์ต่างพูดถึงต้นคริสต์มาสกลับหัวกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะในแถบอเมริกาและยุโรปที่ดูจะสงสัยว่าทำไมสิ่งนี้จึงมีวางขายทั่วไปในร้านค้าชื่อดังอย่าง Target หรือถูกจัดตกแต่งเอาไว้ในห้างใหญ่ๆ อย่าง Westfield เป็นต้น ซึ่งการพูดถึงต้นคริสต์มาสกลับหัวนั้นก็เต็มไปด้วยคำถามประมาณว่า “ทำไมจึงมีต้นไม้แบบนี้ขาย” “โอ้ ฉันก็นึกว่าเป็นแชนเดอเลียร์รูปแบบใหม่” หรือ “นี่มันไม่เคารพศาสนากันนี่!” หรือแม้แต่บางคนที่ออกมาบอกว่า “ตื่นเต้นอะไรกัน พ่อแม่ฉันห้อยแบบนี้มาตั้งแต่ยุค 80s แล้วย่ะ!”
This is the first time I've seen an upside down tree for sale with a tree stand. My parents have been hanging theirs upside down from the ceiling 1984. pic.twitter.com/OVE1obZlrH
— Melissa Carlton (@AuntMo9) November 23, 2017
อันที่จริงแล้วต้นคริสต์มาสกลับหัวนั้นถูกห้อยโตงเตงแบบนี้ทั่วไปในแถบยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกมาช้านานแล้ว เริ่มต้นจากกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามในช่วงนั้นที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ จากการเผยแผ่ราวศตวรรษที่ 7-8 นั้นพบว่า การห้อยต้นสนกลับหัวให้ได้รูปร่างเป็นสามเหลี่ยมนั้นเป็นสัญลักษณ์แทน ‘สามเหลี่ยมตรีเอกานุภาพ’ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ซึ่งนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แฝงแล้ว สามเหลี่ยมกลับหัวก็เปรียบเสมือนรูปร่างของพระเยซูที่ถูกตรึงกางเขนนั่นเอง
และจากการถูกพูดถึงของเจ้าต้นคริสต์มาสห้อยหัวนี้ก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองมากมายจากผู้คนที่มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ โดยบางกลุ่มยังคงมองว่าต้นคริสต์มาสเป็นเสมือนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเฉลิมฉลองและทำตามขนบเดิม ส่วนอีกกลุ่มก็พบว่าการกลับหัวต้นคริสต์มาสนั้นก็ดูเป็นเรื่องแปลกใหม่และน่าสนใจ
ต้นคริสต์มาสของทรัมป์
ประเด็นต้นคริสต์มาสกลับหัวไม่ได้ฮอตแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น เพราะแม้แต่ทางหน้าจอโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกาก็ฮอตไม่แพ้กัน จากรายการดัง Fox and Friends ที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นไม้เบื่อไม้เมากับประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างโดนัลด์ ทรัมป์
ล่าสุดหนึ่งในพิธีกรของรายการอย่าง พีท เฮ็กเซธ ได้หยิบยกประเด็น ‘Upside Down Christmas Tree’ ขึ้นไปเป็นหัวข้อในการสนทนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการสัมภาษณ์ โครีย์ เลวานโดว์สกี อดีตผู้จัดการการหาเสียงของทรัมป์ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งการสนทนาและความคิดเห็นที่เขาแสดงออกมาก็พาเลยเถิดไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะความคิดแบบคนหัวเก่าของทรัมป์ ซึ่งเลวานโดว์สกีเองก็แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมมั่นใจว่าครอบครัวของประธานาธิบดีคงไม่เอาต้นไม้นี้มากลับหัวแน่ พวกเขาเป็นเหมือนกลุ่มอนุรักษนิยมของประเทศนี้”
จากการหยิบโยงประเด็นการกลับหัวต้นคริสต์มาสเข้ากับสภาพการเมืองของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ อาจเป็นเพราะทั้งเฮ็กเซธและเลวานโดว์สกีพยายามจะบอกว่า เทรนด์ห้อยหัวใหม่ล่าสุดนี้อาจไม่เป็นที่ชอบใจของกลุ่มคนหัวเก่านัก และคิดว่าพวกเขากำลังมองว่าประเด็นนี้เป็นเสมือนสิ่งผิดที่ขัดต่อประเพณีดั้งเดิม
“มันเหมือนโลกที่กลับหัว ต้นคริสต์มาสกลับหัวมีความหมายกับผมเช่นนั้น เพราะทุกอย่างมันดูผิดที่ผิดทางไปหมด” เลวานโดว์สกีกล่าวถึงสภาพการเมืองของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ที่ดูจะไม่ถูกใจทั้งตัวเขาเองและอเมริกันชนส่วนใหญ่
สรุปว่าห้อยหัวแล้วผิดตรงไหน?
คำถามก็คือมันไม่ได้มีเรื่องใดเป็นสิ่งผิดเลยแม้แต่น้อย หากมองรวมๆ ว่าการกลับหัวต้นคริสต์มาสนั้นเป็นเพียงอีกหนึ่งลักษณะการจัดวางที่ให้ความหมายและบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสเหมือนๆ กัน
หรือหากจะมองต้นคริสต์มาสเหล่านั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์บางอย่าง การวางห้อยหัวลงมาก็เป็นสิ่งดี อย่างน้อยคุณก็จะได้มีพื้นที่ไว้ซื้อของประดับอื่นๆ มาวางเพิ่มได้อีก หรือหากมองในแง่ของศาสนา การห้อยหัวต้นคริสต์มาสก็ไม่ได้เป็นการลบหลู่หรือขัดศรัทธาแต่อย่างใด เพราะในยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออกก็ปฏิบัติสิ่งนี้กันมากันมาหลายร้อยปี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละบ้าน
ส่วนในบริบทของบ้านเรานั้น คุณอาจจะไม่รู้ (เราเองก็ไม่รู้) ว่าการห้อยหัวต้นคริสต์มาสนี้ก็ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด เพราะแหล่งเที่ยวกลางคืนยอดฮิตอย่างพัฒน์พงษ์หรือซอยคาวบอยก็กระทำสิ่งนี้กันมาหลายปีแล้ว (เพียงแต่ห้อยเอาไว้ข้างบนเพื่อจะได้ไม่เกะกะแขกที่เดินไปมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจงใจสื่ออะไรหรือเปล่า)
หากอยากลองอะไรใหม่ๆ เราว่าการนำเอาต้นคริสต์มาสกลับหัวลงมาก็ดูน่าสนใจไม่น้อย หรือหากชอบอะไรแบบดั้งเดิมแล้ว คุณก็เพียงจัดต้นคริสต์มาสของคุณให้สวยงามและเตรียมพร้อมส่งความสุขในช่วงเทศกาลเท่านั้นก็พอ
อย่าไปตีความอะไรให้ปวดหัวเลย… เมอร์รี คริสต์มาสล่วงหน้า
Cover Photo: Hotel del Coronado/twitter
อ้างอิง:
- www.newsweek.com/upside-down-christmas-tree-meaning-fox-friends-lewandowski-721369
- www.popsugar.com/moms/Upside-Down-Christmas-Trees-44303913
- www.thespruce.com/upside-down-christmas-trees-eastern-tradition-1135800
- www.thespruce.com/upside-down-christmas-trees-1976407
- ต้นคริสต์มาสกลับหัวมีวางขายในร้าน Target ซึ่งสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ในราคาราว 990 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาท