สำรวจพรมแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก หลัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งประกาศปิดรับผู้อพยพจากฝั่งเม็กซิโกชั่วคราว หากปริมาณคนเข้าเมืองเฉลี่ยในรอบสัปดาห์สูงแตะ 2,500 คนต่อวัน โดยทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ จะเปิดช่องทางข้ามพรมแดนให้ผู้อพยพอีกครั้ง เมื่อตัวเลขเฉลี่ยในรอบสัปดาห์กลับมาอยู่ที่ 1,500 คนต่อวัน
ถือเป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เด็ดขาดที่สุดครั้งหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อจัดการกับวิกฤตผู้อพยพในลาตินอเมริกาที่ไหลทะลักเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไบเดนก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 2021 พร้อมมุ่งหวังปลดล็อกประเด็นทางการเมืองที่ผูกโยงอยู่กับปัญหาคนเข้าเมือง ก่อนการเลือกตั้งครั้งสำคัญจะเปิดฉากขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) เผยว่า จำนวนผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ เคยทำสถิติมากถึง 300,000 คนต่อเดือน เมื่อช่วงต้นปี 2024
ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนแสดงความกังวลว่า นโยบายนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการขอลี้ภัย และหาก โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนะการเลือกตั้งและกลับขึ้นมาบริหารประเทศอีกครั้ง อาจทำให้บุคคลที่มีความเปราะบางจำนวนมาก รวมถึงครอบครัว เด็กๆ และผู้ที่หลบหนีความรุนแรงและการประหัตประหาร ปราศจากความคุ้มครองและที่หลบภัยที่พวกเขาต้องการ
ภาพ: Go Nakamura / Reuters
ภาพ: Jose Torres Cancino / Reuters
ภาพ: Katie McTiernan / Anadolu via Getty Images
ภาพ: Jose Luis Gonzalez / Reuters
ภาพ: Qian Weizhong / VCG via Getty Images
อ้างอิง: