กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริการะบุว่าได้ยื่นคำร้องเมื่อวานนี้ (29 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อคัดค้านกฎหมายในรัฐแอละแบมา ที่ลงโทษการให้บริการเพื่อการแปลงเพศหรือปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ตรงกับเพศภาวะ (Gender-affirming) สำหรับเยาวชนที่เป็นบุคคลข้ามเพศ
เมื่อต้นเดือนนี้ผู้ว่าการรัฐแอละแบมาจากพรรครีพับลิกันลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งทำให้มีโทษทางอาญา โดยต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับการให้บริการทางการแพทย์โดยสมัครใจ เช่น การใช้ฮอร์โมน, ยายับยั้งการเจริญพันธุ์ และการผ่าตัดเพื่อช่วยปรับลักษณะทางกายภาพให้เข้ากับอัตลักษณ์ทางเพศของผู้เยาว์
คำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาว่าการแบนที่มีโทษทางอาญาของกฎหมายใหม่ สำหรับการดูแลที่จำเป็นทางการแพทย์บางอย่างแก่ผู้เยาว์ที่เป็นบุคคลข้ามเพศ เป็นการละเมิดหลักความเสมอภาคของบุคคล (Equal Protection Clause) ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาที่แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 14 โดยทางกระทรวงขอให้ศาลออกคำสั่งทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้
ก่อนหน้านี้กลุ่มสิทธิพลเมืองหลายกลุ่ม ซึ่งรวมทั้งสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (American Civil Liberties Union: ACLU) ได้สาบานที่จะคัดค้านกฎหมายในศาลเมื่อมีการลงนาม
“เยาวชนข้ามเพศเป็นส่วนหนึ่งของแอละแบมา และพวกเขาสมควรได้รับความเป็นส่วนตัว การเข้าถึงการรักษา และการดูแลสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมเช่นเดียวกับชาวแอละแบมาคนอื่นๆ” ทิช โกเทล โฟล์กส์ ผู้อำนวยการด้านกฎหมายของ ACLU แห่งแอละแบมา ระบุในจดหมายข่าวเมื่อต้นเดือนเมษายน
กฎหมายฉบับนี้เป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่กำหนดเป้าหมายไปที่เยาวชนข้ามเพศ ที่กำลังคืบหน้าในรัฐที่นำโดยพรรครีพับลิกันก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนนี้
“ฉันเชื่ออย่างแรงกล้าว่าหากพระเจ้าสร้างคุณให้กลายเป็นผู้ชาย คุณเป็นผู้ชาย และถ้าเขาทำให้คุณเป็นผู้หญิง คุณก็เป็นผู้หญิง” เคย์ ไอวีย์ ผู้ว่าการรัฐกล่าวเมื่อเธอลงนามในกฎหมาย “เราควรปกป้องเด็กๆ ของเราเป็นพิเศษจากยา และการผ่าตัดที่เปลี่ยนชีวิตและเกี่ยวข้องกับส่วนสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่ในระยะที่เปราะบางในชีวิต”
แฟ้มภาพ: Julie Bennett / Getty Images (ภาพจากการประท้วงในอดีต เพื่อสร้างความสนใจในประเด็นการออกกฎหมายต่อต้านคนข้ามเพศที่ถูกเสนอในรัฐแอละแบมา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2021)
อ้างอิง: