จากกรณีเครื่องบินโดยสาร Boeing 777 ของสายการบิน United Airlines เที่ยวบินที่ UA328 เกิดเหตุระเบิดและไฟลุกไหม้ที่เครื่องยนต์ด้านขวาในช่วงไม่กี่นาทีหลังบินขึ้นจากสนามบินเมืองเดนเวอร์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 กุมภาพันธ์) ก่อนที่เครื่องบินจะวกกลับไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเดนเวอร์ได้อย่างปลอดภัยนั้น
ล่าสุด คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติ (National Transportation Safety Board: NTSB) ของสหรัฐฯ ซึ่งร่วมกับองค์การบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration: FAA) ได้สืบสวนสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ขัดข้อง และเปิดเผยผลการสืบสวนขั้นต้นพบว่า มีร่องรอยความล้าของโลหะ (Metal Fatigue) ที่สอดคล้องกับสภาพความเสียหายในเครื่องยนต์ด้านขวาของเที่ยวบิน UA328
สำหรับเครื่องยนต์ที่เกิดเหตุนั้นเป็นเครื่องยนต์รุ่น PW4000 จากบริษัท Pratt & Whitney ซึ่งมีกลีบใบพัดทั้งหมด 22 ใบ โดยทีมสืบสวนของ NTSB ระบุภายหลังตรวจสอบพบว่า หนึ่งในใบพัดนั้นไปติดอยู่ด้านในของวงแหวนครอบเครื่องยนต์ และอีกใบถูกพบร่วงอยู่ในสนามฟุตบอลในเมืองบรูมฟีลด์ รัฐโคโลราโด
จากการตรวจสอบยังพบว่า หนึ่งในใบพัดนั้นหักออก และดูเหมือนจะลอยไปกระแทกเข้ากับใบพัดอื่นๆ ที่มีรอยหักตรงกลาง ซึ่งทีมสืบสวนชี้ว่า ร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นสอดคล้องกับลักษณะความล้าของโลหะ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปสาเหตุแน่ชัดได้ และคาดว่าการสืบสวนอาจต้องใช้เวลาอีกมากกว่า 1 ปี
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอความน่ากลัวของเครื่องยนต์ที่เกิดไฟลุกไหม้ในระหว่างบิน และภาพของเศษชิ้นส่วนห่อหุ้มเครื่องยนต์ที่ตกใส่บ้านเรือนในเดนเวอร์
ซึ่งสำนักข่าว CNN รายงานคำสัมภาษณ์จากผู้โดยสาร เล่าว่า บรรยากาศในขณะเกิดเหตุนั้นตึงเครียด แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังคงสงบ โดยนักบินแจ้งว่าจะนำเครื่องบินลงจอด ซึ่งหนึ่งในผู้โดยสารที่มีลูกสาวนั่งข้างหน้าต่าง ต้องเอามือปิดตาลูกและบอกให้ช่วยกันสวดขอให้รอดชีวิต
ภายหลังเกิดเหตุ ทางสายการบิน United Airlines ได้สั่งพักใช้งานเครื่องบิน Boeing 777 ที่ใช้เครื่องยนต์ PW4000 ทุกลำ เพื่อตรวจสอบ พร้อมให้ความร่วมมือทางการในการสืบสวนสาเหตุ
ขณะที่ NTSB จะส่งเครื่องยนต์ที่เกิดปัญหาไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการของบริษัท Pratt & Whitney โดยจะตรวจสอบใบพัดในวันนี้เพื่อดูว่าใบพัดนั้นเกิดความเสียหายมานานแค่ไหน ก่อนจะทำให้เครื่องยนต์ขัดข้องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สืบสวนของ NTSB ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เริ่มตรวจสอบข้อมูลจากกล่องดำบันทึกข้อมูลเที่ยวบินและเสียงในห้องนักบินแล้ว แต่ยังไม่ได้ตรวจประวัติการซ่อมบำรุงเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ
ภาพ: Hayden Smith / @speedbird5280 / Handout via REUTERS
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: