ในเดือนกันยายน 2014 Uniqlo แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ของแดนซามูไร ได้ขยายร้านไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยบุกไปตั้งที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ คล้อยหลังเพียง 1 ปีก็ได้บุกไปยังแดนมังกร โดยมีสาขาแรกอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
วันนี้จำนวนร้านค้า Uniqlo ในประเทศจีน ณ เดือนสิงหาคมมีอยู่ทั้งสิ้น 767 สาขา มากกว่าประเทศบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่นที่มีเพียง 764 สาขาไปเสียแล้ว จำนวนร้านค้าในแผ่นดินใหญ่ได้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับจำนวนร้าน 387 สาขาที่มีในเดือนสิงหาคม 2015
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยเฉลี่ยแล้ว Uniqlo เปิดร้านค้าใหม่ถึง 7 แห่งต่อเดือน โดยขยายไปยังเมืองต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตภูมิภาคของจีน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาที่เพิ่มขึ้นของ Uniqlo ในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Fast Retailing ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Uniqlo กำลังสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ในประเทศจีนที่รวมอีคอมเมิร์ซเข้ากับร้านค้าจริง ซึ่งคาดหวังให้เป็นรูปแบบหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ แต่กระนั้นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและโตเกียวก็เป็นความเสี่ยงทางธุรกิจ
“ด้วยจำนวนประชากร 1.3 พันล้านคน ผมคิดว่าเราสามารถมีร้านค้าได้ถึงประมาณ 3,000 แห่ง” ทาดาชิ ยานาอิ (Tadashi Yanai) ผู้ก่อตั้ง Fast Retailing กล่าวกับ Nikkei Asian Review ถึงแผนการขยายสาขาในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
Uniqlo ให้ความสำคัญกับจีนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยยอดขายในจีนเมื่อรวมกับฮ่องกงและไต้หวันสร้างรายได้ 5.025 แสนล้านเยน หรือราว 1.48 แสนล้านบาท สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2019 โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 20% แม้ยอดขายจะน้อยกว่าในบ้านเกิดที่ทำได้ 8.729 แสนล้านเยน หรือ 2.56 แสนล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศที่พูดภาษาจีนได้มีการขยายตัวที่รวดเร็ว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนสิงหาคม 2019 มีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 15% ซึ่งมากกว่าญี่ปุ่นถึง 3% โดยมีการประเมินว่ายอดขายในจีนจะมากกว่ายอดขายในญี่ปุ่นในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2024
ขณะเดียวกันผู้บริโภคชาวจีนนิยมซื้อสินค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซประมาณ 20% ของยอดขายในจีนของ Fast Retailing มาจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2019 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น
ทาดาชิคาดหวังว่า หากสามารถเชื่อมต่อร้านค้าแบบดั้งเดิมเข้ากับร้านค้าออนไลน์แบบไร้รอยต่อ จะทำให้บริษัทสามารถทำยอดขายได้มากถึง 2 ล้านล้านเยนได้อย่างแน่นอน ซึ่งในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2020 คาดว่ารายได้ของ Fast Retailing จะอยู่ที่ราว 1.99 ล้านเยนด้วยกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: