Unilever ยักษ์ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เตรียมติดตั้ง QR Code บนบรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ยาสีฟัน Pepsodent และ Lifebuoy เพื่อให้บริการ Telemedicine ในอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าให้ผู้บริโภคกว่า 200 ล้านคนเข้าพบทันตแพทย์ภายในปี 2025
Nikkei Asia รายงานว่า Unilever ร่วมมือกับ Halodoc สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี ติดตั้ง QR Code บนบรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ยาสีฟัน Pepsodent และ Lifebuoy เพื่อให้บริการ Telemedicine โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ซึ่ง Telemedicine หรือที่เรียกว่าการให้บริการโดยบุคลากรทางการแพทย์ผ่านทางเทคโนโลยีและการสื่อสารแบบ Video Conference เพื่อวินิจฉัย รักษา และป้องกันโรค
โดยเบื้องต้นจะเริ่มในตลาดอินโดนีเซียและเวียดนามที่กำลังเจอปัญหาการขาดแคลนแพทย์อย่างรุนแรง
สอดคล้องกับรายงานของ Infodent International สํานักพิมพ์และอุตสาหกรรมทันตกรรม ระบุว่า ชาวอินโดนีเซีย 86% ไม่เคยไปพบทันตแพทย์ เพราะเข้าถึงยาก ขณะที่ประชากรในเวียดนามมากกว่า 70% ก็ไม่เคยไปพบทันตแพทย์เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- 88 ปี Unilever เปลี่ยนโลกด้วยการขายผงซักฟอกและไอศกรีม
- ใช้ ลิซ่า BLACKPINK แล้วปัง แม้ค่าตัวเพิ่ม 100% ก็ยอม! ‘เดนทิสเต้’ ต่อสัญญา หวังกระตุ้นยอดขายเพิ่มอีก 10%
“จุดเริ่มต้นของการลงทุนขยายการบริการดังกล่าวมาจากโควิดที่ทำให้เรามองเห็นว่าการเข้าถึงการแพทย์เป็นสิ่งสําคัญ หลายครั้งที่คนไม่ต้องการเดินทางไปยังคลินิก และที่สำคัญนอกจากที่เราต้องสร้างการรับรู้ของแบรนด์ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้และกำไร ยังสามารถทำเพื่อสังคมได้ด้วย” คาร์ทิก แชนดราเซคาร์ หัวหน้าฝ่ายดูแลช่องปากและทําความสะอาดผิวของ Unilever กล่าว
ทั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มสินค้ายาสีฟัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 75% ของธุรกิจ เติบโตขึ้นในตลาดอินโดนีเซียและเวียดนาม และจากนี้บริษัทกําลังมองหาพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อวางแผนเปิดตัว Telemedicine ในตลาดอื่นๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาบริษัทมีแบรนด์สินค้ากว่า 400 รายการ ทั้งสบู่ ยาสีฟัน และวาสลีน มีช่องทางขายกระจายไปใน 190 ประเทศ และในปี 2022 มีมูลค่าการซื้อ-ขายกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม Unilever ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวที่ให้บริการด้านสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังมี Lion ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคของญี่ปุ่น ที่ได้พัฒนาแปรงสีฟันอัจฉริยะ เชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันสื่อการเรียนการสอน ให้เด็กมองเห็นความสําคัญของการแปรงฟันที่ถูกวิธี
อ้างอิง: