องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เปิดเผยรายงานว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 641 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 37 ล้านคน หรือ 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
รายงานระบุว่าจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน ปี 2018 คือยุโรปตอนใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ซาราบ โปโลลิคาชวิลี เลขาธิการ UNWTO ระบุว่าตัวเลขการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ที่บ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
“ทุกภูมิภาคทั่วโลกมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ด้วยปัจจัยบวกจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวในประเทศต้นทางรายใหญ่ ซึ่งหนุนโดยภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น” โปโลลิคาชวิลีกล่าว
ในยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย มีจำนวนนักท่องเที่ยวขาออกเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลัก ขณะที่อินเดียและเกาหลีใต้ก็มีตัวเลขที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในเอเชีย
ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าในยุโรปตอนใต้และประเทศรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนยุโรปในภาพรวมมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 6.8%
ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งขึ้นถึง 9.4% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยที่จีนเป็นแหล่งต้นทางที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
เมื่อดูตลอดทั้งปี 2017 นักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามประเทศมีจำนวน 1,330 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2016 ส่วนภาพรวมปีนี้ UNWTO คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 4-5% จากปีที่แล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: