สหประชาชาติ (UN) ตีพิมพ์รายงานประเด็นความรุนแรงต่อสตรี เผย คดีฆาตกรรมที่มีเหยื่อเป็นผู้หญิงเกินกว่าครึ่งเกิดจากฝีมือของคนรักหรือสมาชิกในครอบครัว จนบ้านไม่ต่างอะไรจาก ‘สถานที่ที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้หญิง’
ข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ขึ้นวานนี้ เนื่องใน ‘วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล’ ที่สหประชาชาติกำหนดไว้
จากจำนวนคดีฆาตกรรมที่มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงทั่วโลกรวม 87,000 คดีในปีที่ผ่านมา มีคดีทั้งสิ้นประมาณ 50,000 คดี หรือราว 58% ที่ผู้ก่อเหตุอยู่ในความสัมพันธ์หรือเป็นคนในครอบครัวของเหยื่อ หากเจาะลึกเฉพาะคดีที่คู่รักลงมือนั้นอยู่ที่ประมาณ 30,000 คดี หรือคิดเป็น 34%
“ทุกๆ ชั่วโมงจะมีผู้หญิงประมาณ 6 คนเสียชีวิตจากฝีมือของคนที่เธอรู้จัก” องค์กรสรุป
ขณะเดียวกัน “แม้ว่าคดีฆาตกรรมส่วนใหญ่จะมีเหยื่อเป็นผู้ชาย ผู้หญิงยังคงมีราคาที่ต้องจ่ายสูงที่สุด เนื่องมาจากผลพวงของความไม่เท่าเทียมทางเพศ การเลือกปฏิบัติ และการเหมารวมแบบลบๆ” ยูริ เฟโดทอฟ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร UNODC ย้ำ
“มีโอกาสสูงมากที่พวกเธอจะถูกแฟนหรือสมาชิกในครอบครัวฆ่า… ทำให้บ้านถือเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้หญิง”
รายงานระบุต่อไปว่า หากเทียบเป็นสัดส่วนแล้ว ในผู้หญิงทุกๆ 100,000 คน จะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ 1.3 คน ซ้ำยังมีพื้นที่ที่ผู้หญิงต้องพบโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นด้วยอย่างทวีปแอฟริกาและทวีปอเมริกา ตกเฉลี่ย 3.1 คน และ 1.6 คน ตามลำดับ
ทางด้านทวีปอย่างโอเชียเนียมีโอกาสเกิดเหตุเท่ากับค่าเฉลี่ยทั่วโลก ตามมาด้วยทวีปเอเชีย 0.9 คน และทวีปยุโรปมีโอกาสเกิดความรุนแรงต่อสตรีต่ำที่สุด 0.7 คน
รายงาน UNODC กล่าวไว้อีกว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ยังปราศจากความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม” เพื่อต่อสู้กับความรุนแรงดังกล่าว “แม้ว่าจะมีการออกกฎหมายและโครงการต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อขจัดความรุนแรงต่อสตรี”
ภายในบทสรุปของข้อมูลชิ้นนี้ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความยุติธรรมทางอาญาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมยังเรียกร้องให้มีการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและระบบยุติธรรม ตลอดจนการบริการสุขภาวะและบริการทางสังคมที่ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกประการในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อสตรีคือ การให้ผู้ชายมีส่วนร่วม โดยรวมถึงการให้การศึกษาในประเด็นนี้ตั้งแต่ยังเล็กด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: