วานนี้ (25 ตุลาคม) รายงานด้านสิ่งแวดล้อมฉบับล่าสุดของสหประชาชาติ (UN) ชี้ว่า ประชาคมโลกยังอยู่ห่างไกลที่จะบรรลุเป้าหมายในการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในความตกลงปารีสปี 2015
ประชาคมโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะโลกรวน คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่และอยู่ต่อเนื่องยาวนานยิ่งขึ้น บางพื้นที่น้ำท่วมสูง บางพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ธารน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางภาวะที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มสูงขึ้น 1.1-1.2 องศาเซลเซียสแล้ว เป็นเหตุให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก ต่างเรียกร้องให้แต่ละประเทศแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างจริงจัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทางด้าน ไซมอน สตีลล์ เลขาธิการ UN Climate Change ระบุว่า “พวกเรายังไม่ถึงจุดที่เข้าใกล้ระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เราต้องการ เพื่อที่จะเคลื่อนไปสู่การบรรลุเป้าหมายจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้เลย และเพื่อที่จะทำให้เป้าหมายนี้ยังพอที่จะเป็นไปได้นั้น รัฐบาลต่างๆ จำเป็นต้องยกระดับแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมในขณะนี้และนำไปปฏิบัติในช่วงระยะเวลา 8 ปีต่อจากนี้”
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมยังเผยอีกว่า สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซลงอีก 43% ภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในความตกลงปารีส แต่รายงานล่าสุดของ UN ชี้ว่า คำมั่นสัญญาและแผนระดับชาติของรัฐบาลต่างๆ ในขณะนี้ยังมีความทะเยอทะยานไม่มากพอ อีกทั้งยังจะเพิ่มระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นแทน 10.6% ภายในปี 2030
สตีลล์ยังเผยอีกว่า นับตั้งแต่ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ปี 2021 ที่ผ่านมา มีเพียง 24 ประเทศเท่านั้นที่อัปเดตรายงานและแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับชาติ สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่น่าผิดหวัง สำหรับความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมโลก และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอุณหภูมิเฉลี่ยโลกอาจสูงขึ้นเกิน 2.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2100
โดยผู้นำประเทศและผู้แทนระดับสูงจากเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมการประชุม COP27 ที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 6-18 พฤศจิกายน 2022 เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางรับมือและแก้ไขวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
แฟ้มภาพ: imageBROKER.com / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://unfccc.int/news/climate-plans-remain-insufficient-more-ambitious-action-needed-now
- https://www.aljazeera.com/news/2022/10/26/un-says-countries-climate-plans-nowhere-near-1-5c-goal
- https://www.france24.com/en/europe/20221026-un-says-world-s-climate-pledges-still-nowhere-near-meeting-1-5c-goal
