ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน แถลงช่วงเย็นวานนี้ (13 สิงหาคม) โดยส่งข้อความเตือนไปยังทหารรัสเซียทุกนายที่ยิงปืนโจมตีใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเกราะกำบังในการยิง ว่าจะกลายเป็นเป้าหมายพิเศษของหน่วยรบพิเศษและกองทัพยูเครน รวมถึงหน่วยข่าวกรองยูเครน
โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เซเลนสกีกล่าวถึงคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ในเมืองอีเนอร์โกดาร์ ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปที่กองทัพรัสเซียบุกยึดและเข้าควบคุมไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีรายงานการสู้รบเกิดขึ้นที่บริเวณโรงไฟฟ้าแห่งนี้หลายครั้ง จนทำให้องค์การสหประชาชาติและหลายประเทศแสดงความหวั่นวิตกต่อการเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ โดยกลุ่ม G7 เรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกมาจากโรงไฟฟ้า ขณะที่อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการ UN เตือนว่า การโจมตีโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ดังกล่าวจะเป็นการกระทำที่เหมือนกับการ ‘ฆ่าตัวตาย’
ขณะที่รัฐบาลเคียฟและมอสโกต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นต้นตอของเหตุปะทะและการยิงโจมตีบริเวณโรงไฟฟ้าหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และในการแถลงล่าสุด เซเลนสกียังย้ำข้อกล่าวหาว่ารัสเซียนั้นใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในการแบล็กเมล หรือข่มขู่
ทั้งนี้ มิคาอิโล โปโดลยาค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์กล่าวหารัสเซียว่าโจมตีเป้าหมายบางส่วนของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งเป็นจุดที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าป้อนให้กับหลายเมืองทางตอนใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดไฟฟ้าและโยนความผิดให้กองทัพยูเครน
“เป้าหมายคือการตัดเราจากโรงไฟฟ้า และโทษกองทัพยูเครนในเรื่องนี้” เขากล่าว
ภาพ: Dmytro Smolyenko/Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง: