วันนี้ (28 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ทางการยูเครนระบุว่า กองกำลังยูเครนอาจต้องล่าถอยจากพื้นที่สุดท้ายของพวกเขาในภูมิภาคลูฮันสก์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับ ขณะที่กองทหารรัสเซียเร่งดำเนินการรุกคืบทางตะวันออก ซึ่งการรุกคืบดังกล่าวได้เปลี่ยนโมเมนตัมของสงครามที่ดำเนินมาแล้วกว่า 3 เดือน
ทั้งนี้ การถอนตัวอาจทำให้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เข้าใกล้เป้าหมายในการยึดพื้นที่แคว้นลูฮันสก์และโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน อย่างเต็มรูปแบบ โดย เซอร์ฮีย์ ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ระบุว่า ทหารรัสเซียได้เข้าสู่เมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคดอนบาสที่ยูเครนยังคงครอบครองอยู่เรียบร้อยแล้ว หลังจากพยายามจับตัวกองกำลังยูเครนที่นั่นมาหลายวัน อย่างไรก็ตาม ไฮไดเสริมว่า กองกำลังรัสเซียจะไม่สามารถยึดพื้นที่ลูฮันสก์ได้ ‘ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้’
“เราจะมีกำลังและทรัพยากรเพียงพอที่จะป้องกันตนเอง อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าเพื่อไม่ให้ถูกล้อม พวกเราจะต้องล่าถอย” ไฮไดระบุผ่านแอป Telegram นอกจากนี้ไฮไดยังบอกว่า ร้อยละ 90 ของอาคารในเซียเวียโรโดเนตสก์ได้รับความเสียหาย โดยมีอาคารสูง 14 แห่งถูกทำลายในการโจมตีครั้งล่าสุด นอกจากนั้นเขายังให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่ามีทหารรัสเซียประมาณ 10,000 นายประจำอยู่ในแคว้นนี้
นอกจากนี้ไฮไดยังระบุข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายสิบคนอยู่ในเซียเวียโรโดเนตสก์ แต่พวกเขาประสบปัญหาในการเดินทางไปโรงพยาบาลเนื่องจากการโจมตี
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างอิสระ
ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า ยูเครนกำลังปกป้องดินแดนของตน “มากที่สุดเท่าที่ทรัพยากรด้านกลาโหมของเราในปัจจุบันอนุญาต” ส่วนกองทัพของยูเครนเผยว่า ได้ต้านทานการโจมตี 8 ครั้งในโดเนตสก์และลูฮันสก์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งมีการทำลายรถถังและยานเกราะด้วย
“หากผู้ยึดครองคิดว่าลีมานและเซียเวียโรโดเนตสก์จะเป็นของพวกเขา พวกเขาคิดผิด ดอนบาสจะเป็นของยูเครน” เซเลนสกีแถลง
อีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์หลายรายที่สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในขณะที่กองกำลังรัสเซียได้เริ่มโจมตีโดยตรงบนพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างในเซียเวียโรโดเนตสก์ พวกเขาน่าจะพยายามต่อสู้เพื่อยึดครองพื้นที่ในเมือง
“กองกำลังรัสเซียปฏิบัติงานได้ไม่ดีในพื้นที่เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างตลอดช่วงสงคราม” เหล่านักวิเคราะห์ของสถาบันฯ ระบุ
ด้านกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรระบุว่า กองทหารรัสเซียรุกคืบหลังเจาะแนวป้องกันของยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองโปปัสนา ที่อยู่ทางใต้ของเซียเวียโรโดเนตสก์ กองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียได้ยึดหมู่บ้านหลายแห่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปปัสนา ส่วนผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว Reuters ที่เข้าถึงเมืองโปปัสนาระบุว่า เมืองดังกล่าวถูกทำลาย พบศพผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่ต้องหลบภัยในห้องใต้ดินในซากปรักหักพังของที่พักอาศัย
การเข้าครองพื้นที่ทางตะวันออกโดยรัสเซียเกิดขึ้น หลังจากการถอนกองกำลังของตนออกจากการบุกเข้าใกล้เมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟ ตลอดจนการโจมตีตอบโต้ของยูเครนที่ต่อต้านกองกำลังของรัสเซียจากเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนอย่างคาร์คีฟ ซึ่ง Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทางการว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีบางส่วนของคาร์คิฟเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน ส่วนในวันเสาร์ แม้ว่าจะไม่มีการโจมตีใหม่ในเมืองนี้ แต่ก็มีการโจมตีโดยรัสเซียเกิดขึ้นในชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานใกล้เคียง ด้านฝ่ายรัสเซียเองปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้กำหนดเป้าหมายพลเรือนในสิ่งที่รัสเซียเรียกว่าเป็น ‘ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ’ ในครั้งนี้
และความเคลื่อนไหวทางตอนใต้ของยูเครนที่แคว้นเคอร์ซอน ผู้ว่าการแคว้นระบุกับสื่อว่า กองกำลังรัสเซียกำลังเสริมการป้องกันและโจมตีพื้นที่ควบคุมของยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียได้โจมตีเมืองเซเลโนดอลสก์
ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมี อาทิ เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรประบุว่า อาจมีการบรรลุข้อตกลงภายในวันอาทิตย์ เพื่อแบนการจัดส่งน้ำมันรัสเซียทางทะเล แต่จะยังคงอนุญาตให้มีการส่งทางท่อ ซึ่งถือเป็นการประนีประนอมต่อความกังวลของฮังการีที่ระบุว่า การห้ามการนำเข้าน้ำมันรัสเซียจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากฮังการีซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ไม่สามารถรับน้ำมันจากที่อื่นได้โดยง่าย
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ในการโทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี คาร์ล เนฮัมเมอร์ แห่งออสเตรีย ปูตินยึดมั่นในแนวความคิดที่ว่า วิกฤตการณ์อาหารทั่วโลกที่เกิดจากความขัดแย้งจะคลี่คลายได้ก็ต่อเมื่อชาติตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตร เนฮัมเมอร์ยังระบุอีกว่า ปูตินแสดงความพร้อมที่จะหารือในการแลกเปลี่ยนนักโทษกับยูเครน แต่เสริมว่า “เขาพร้อมที่จะเจรจาจริงๆ หรือไม่นั้น เป็นคำถามที่ซับซ้อน”
ภาพ: Aris Messinis / AFP
อ้างอิง:
