การเจรจาสันติภาพครั้งแรกในรอบ 3 ปี ระหว่างผู้แทนของรัสเซียและยูเครน ที่นครอิสตันบูล ของตุรกี วานนี้ (16 พฤษภาคม) จบลงโดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ แม้บรรยากาศการเจรจาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงจะเป็นไปด้วยดี ขณะที่ทั้งสองประเทศตกลงที่จะแลกเปลี่ยนเชลยศึก 1,000 คน จากแต่ละฝ่าย
แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า ฝ่ายรัสเซียได้ยื่น ‘เงื่อนไขใหม่ที่ไม่สามารถยอมรับได้’ เพื่อแลกกับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งรวมถึงการให้ยูเครนถอนทหารออกจากดินแดนส่วนใหญ่ที่รัสเซียยึดครอง
ภายหลังการเจรจา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ โดยเซเลนสกี เรียกร้องให้ชาติตะวันตก ยังคงมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดเพื่อกดดันรัสเซียต่อไป หากรัสเซียปฏิเสธที่จะหยุดยิง
ทางด้าน เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่าจุดยืนของรัสเซียนั้นยอมรับไม่ได้ และผู้นำยุโรป ยูเครน และสหรัฐฯ กำลัง ‘ปรับแนวทางตอบรับต่อท่าทีของรัสเซีย
ขณะที่เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า “สหภาพยุโรปกำลังดำเนินการพิจารณามาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อมอสโก”
ด้าน รุสเตม อูเมรอฟ (Rustem Umerov) รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ซึ่งเป็นผู้นำคณะผู้แทนเจรจาของยูเครน กล่าวว่าการแลกเปลี่ยนเชลยศึกจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่ไม่ระบุวันเวลาที่แน่ชัด และเรียกร้องให้การเจรจาในขั้นต่อไป ควรเป็นการเจรจาโดยตรงระหว่างเซเลนสกีและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ขณะที่ วลาดิเมียร์ เมดินสกี ผู้ช่วยของปูตินและหัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย กล่าวว่า“ฝ่ายรัสเซียได้รับทราบคำขอของยูเครน” และชี้ว่าคณะผู้แทนของรัสเซียแสดงความพึงพอใจกับการเจรจา และพร้อมที่จะมีการติดต่อระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไป
ภาพ: Arda Kucukkaya / Turkish Foreign Ministry / Handout via Reuters
อ้างอิง: