วันนี้กรุงเคียฟจะแตก! แต่ไม่ได้แตกเพราะข้าศึกที่ไหนบุก คนที่บุกกรุงเคียฟในวันนี้คือเหล่าแฟนบอลทีมชาติยูเครนที่ตระเตรียมความพร้อมที่จะเดินทางมาเพื่อรวมตัวกันร่วมเชียร์ทีมชาติของพวกเขาที่จะลงทำศึกยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
โดยคู่ปรับวันนี้ก็ช่างบังเอิญดีเหลือเกินที่จะได้พบกับทีมที่เคยเขี่ยพวกเขาตกรอบเมื่อ 9 ปีที่แล้วในศึกฟุตบอลยูโรครั้งแรกที่พวกเขาเป็นเจ้าบ้าน ทีมดังกล่าวก็คือทีมชาติอังกฤษนั่นเอง
รายงานข่าวจาก BBC ระบุว่า เวลานี้ร้านอาหาร ผับ บาร์ในละแวกใกล้เคียงกับ Fan Zone กลางกรุงเคียฟที่มีการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลยูโรหนนี้นั้นถูกจองเต็มทั้งหมด และไม่ต้องพูดถึงใน Fan Zone เองที่จะแน่นขนัดชนิดแทบไม่มีทางให้มดเดิน
“ในวันที่เราถ่ายทอดสดเกมยูเครนกับสวีเดน ทุกคนแหกปากร้องตะโกนลั่น กระโดดขึ้นไปดีใจกับบนโต๊ะ” วิตาลิยา โอซาดชา เจ้าของผับแห่งหนึ่งกล่าว “เราก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการจะป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด โดยป้องกันทุกอย่างอย่างดีที่สุด แต่เวลาที่แฟนบอลตื่นเต้น พวกเขาก็ไม่ฟังเราแล้ว!”
อย่างที่บอกว่าการได้พบกับอังกฤษอีกครั้งเป็นเหมือนสิ่งที่ฟ้าขีดเส้นทางไว้ให้ เพราะนี่คือทีมที่สยบพวกเขาคาบ้านที่สนามในเมืองโดเนตสก์ เมืองใหญ่ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งวันนั้นอยู่ในภาวะตึงเครียด ก่อนที่ในอีก 2 ปีต่อมา หรือปี 2014 จะกลายเป็นพื้นที่สงครามที่สู้รบกันกินระยะเวลายาวนานถึง 7 ปีกับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย
7 ปีในภาวะสงครามกัดกร่อนความสุขในหัวใจของชาวยูเครนอย่างมาก (คงไม่มีใครอยากให้มีสงครามในบ้านตัวเอง) และยังมาถูกซ้ำเติมด้วยโควิด ที่ทุกคนต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพราะมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐที่ยาวนานและปัญหาในการกระจายวัคซีน
วันนี้สงครามก็ยังไม่จบและสงครามโรคก็ยังไม่ชนะเด็ดขาด แต่ทีมชาติยูเครนภายใต้การนำของโค้ชที่เป็นสุดยอดนักเตะระดับตำนานอย่าง อังเดรย์ เชฟเชนโก นำความสุขกลับคืนมาอีกครั้ง
“ฟุตบอลรวมชาวยูเครนให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง จากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนที่ยึดเมืองลูฮันสก์ ไปจนถึงทางตะวันตกของประเทศอย่างเมืองอุซโฮรอด” วลาดิสลาฟ ออฟชาเรนโก เจ้าหน้าที่ของทีมชาติยูเครนวัย 24 ปีที่ครั้งหนึ่งเคยต้องติดคุกนานถึง 15 เดือนเพราะเผาธงของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ก่อนได้รับอิสรภาพและมาช่วยงานด้านสังคมของสมาคมฟุตบอลยูเครนเปิดเผย
โดยคนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้นมาจากเพื่อนที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่ถูกครอบครองโดยกลุ่มแบ่งแยกที่เล่าว่า ถึงจะต้องการแบ่งแยกดินแดน แต่พวกเขาก็ยังคงเชียร์ทีมชาติยูเครนเหมือนกันและเหมือนเดิม และฉลองชัยชนะไม่แตกต่างกัน
ถึงจะถูกควบคุมการติดต่อสื่อสารอย่างเข้มงวด แต่ยังเหลือพื้นที่ให้แฟนบอลได้แสดงออกความรู้สึกอย่างใน Vkontakte โซเชียลมีเดียของรัสเซียที่จะมีกลุ่มที่เรียกว่า ‘Typical Donetsk’ ซึ่งมีแฟนบอลยูเครนไปรวมตัวอยู่ในนั้นมากมายปะปนกับแฟนบอลรัสเซีย
ในเมืองลูฮันสก์ยังมีผับที่เปิดเกมของทีมชาติยูเครนให้แฟนบอลดูด้วย เป็นบทพิสูจน์ว่าฟุตบอลนั้นอยู่เหนือความขัดแย้งใดๆ
และเพราะยูเครนเป็นประเทศเกิดใหม่อายุไม่กี่สิบปี และพวกเขาก็ไม่ได้มีเรื่องราวแห่งชัยชนะอะไรให้ชื่นชมมากมายนักตลอดเวลาที่ผ่านมา นั่นทำให้ฟุตบอลคือความสุขที่เข้าถึงหัวใจของชาวยูเครนทุกคนได้อย่างแท้จริง
เสื้อทีมชาติยูเครนก็ไม่ได้เป็นเพียงเสื้อทีมชาติธรรมดาๆ เพราะบนเสื้อนั้นเป็นแผนที่ที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่มีกรณีพิพาทกับรัสเซียอย่างไครเมีย และยังมีข้อความระบุว่า ‘เกียรติยศสู่วีรบุรุษ’ บนปกเสื้อด้วย ซึ่งเคยเป็นประเด็นที่รัสเซียร้องเรียน และยูฟ่า ขอร้องให้ยูเครนนำภาพแผนที่และข้อความออก
ส่วนสีธงชาติของยูเครนที่เป็นสีน้ำเงินและเหลืองนั้นหมายถึง ‘ท้องฟ้าสีครามที่อยู่เหนือทุ่งข้าวสาลีสีทอง’
วันนี้ทั้งสองสีจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจของชาวยูเครนทุกคน
คู่ต่อสู้มีเพียงหนึ่งเดียว และนั่นอยู่ในสนามฟุตบอล
อ้างอิง: