ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 มิถุนายน) ว่า ยูเครนและมอลโดวา ได้รับสถานะผู้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของทั้งสองประเทศ บนเส้นทางที่ยาวไกลในการเข้าร่วมกลุ่ม EU ซึ่งถือเป็นอีก ‘ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์’
ด้าน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีแห่งยูเครน ทวีตข้อความหลังทราบประกาศอย่างเป็นทางการจาก EU โดยระบุว่า
“อนาคตของยูเครนนั้นอยู่ใน EU”
แต่เส้นทางในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU นั้นจะยากหรือง่าย และต้องใช้เวลามากหรือน้อยแค่ไหน ยังคงเป็นคำถามสำคัญสำหรับยูเครน ที่เวลานี้ตกอยู่ท่ามกลางไฟสงครามและเผชิญแรงกดดันจากรัสเซียที่ไม่ต้องการให้ยูเครน ซึ่งเป็นอดีตดินแดนของสหภาพโซเวียต เข้าร่วมกลุ่มกับชาติตะวันตก
สถานะความสัมพันธ์ ยูเครน-EU ตอนนี้?
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือ 4 วันหลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ขอให้ EU อนุญาตให้ยูเครนได้กลายเป็นสมาชิกผ่านกระบวนการและขั้นตอนพิเศษในทันที หลังจากที่เขาได้ลงนามอย่างเป็นทางการในการสมัครเข้าเป็นสมาชิก EU
ปัจจุบัน ยูเครนพร้อมด้วยมอลโดวา, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน และมอลโดวา ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘หุ้นส่วนตะวันออก’ ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2009 โดยความเป็นหุ้นส่วนในเชิงนโยบายร่วมนี้มีขึ้นเพื่อพยายามกระชับความสัมพันธ์ ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก EU และ ‘6 ประเทศหุ้นส่วน’
ข้อกำหนดที่ต้องการสำหรับเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU
มาตรา 49 ของสนธิสัญญาสหภาพยุโรป ระบุว่า ‘ประเทศในยุโรปใดๆ ที่พยายามจะเข้าร่วมกลุ่ม จะต้องมุ่งมั่นที่จะเคารพและส่งเสริมค่านิยมพื้นฐานของสหภาพยุโรปที่กำหนดไว้ในมาตรา 2 ซึ่งรวมถึงการเคารพในเสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเสมอภาค และหลักนิติธรรม เป็นต้น’
ซึ่งหลังจากได้รับใบสมัครแล้ว สมาชิก EU จะตัดสินความเหมาะสมของประเทศผู้สมัครตามข้อกำหนดเหล่านี้
ทั้งนี้ ในการประชุมสภายุโรปที่กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กเมื่อปี 1993 ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งเรียกว่า ‘เกณฑ์โคเปนเฮเกน (Copenhagen Criteria)’ โดยรวมถึงเงื่อนไขสำคัญที่ประเทศผู้สมัครทุกประเทศต้องปฏิบัติตาม เช่น การมีตลาดเศรษฐกิจที่ใช้งานได้, มีประชาธิปไตยที่ประกอบไปด้วยความมั่นคงและหลักนิติธรรม, การยอมรับทุกกฎหมายของ EU และสกุลเงินยูโร
กระบวนการเข้าร่วม EU
ขั้นตอนการได้รับสมาชิกภาพของ EU ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่
- ขั้นตอนที่ 1 ประเทศผู้สมัครจะได้รับสถานะผู้สมัครอย่างเป็นทางการ ซึ่งยูเครนผ่านในขั้นตอนนี้แล้ว
- ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นเจรจาเกี่ยวกับสมาชิกภาพอย่างเป็นทางการกับประเทศผู้สมัคร ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการนำกฎหมายของ EU มาใช้เป็นกฎหมายระดับประเทศ และมีการดำเนินการปฏิรูปด้านตุลาการ การบริหาร เศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ที่เรียกว่าเกณฑ์การเข้าเป็นสมาชิก
- ขั้นตอนที่ 3 เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น และประเทศผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งหมด ก็จะสามารถเข้าร่วม EU ได้
อย่างไรก็ตาม การเป็นสมาชิก EU นั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ยาวนานและมีความซับซ้อน ซึ่งแม้ว่าจะได้รับสถานะประเทศผู้สมัครอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม แต่กระบวนการที่เหลือจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยเฉพาะในการเจรจา ซึ่งระยะเวลาของการเจรจาอาจแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละประเทศ โดยโครเอเชีย สมาชิกล่าสุดของ EU ที่เข้าร่วมในปี 2013 ใช้เวลา 10 ปี กว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด
จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับการสมัครสมาชิก EU ของยูเครน?
ปัจจุบันทั้งยูเครนและมอลโดวาต่างได้รับสถานะผู้สมัครสมาชิก EU อย่างเป็นทางการ ซึ่งในการพิจารณาของผู้นำชาติสมาชิก EU ทั้ง 27 ประเทศ เมื่อวันที่ 23-24 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงความเหมาะสมและคุณสมบัติของทั้งสองประเทศ ก่อนที่ผู้นำ EU ทั้งหมดจะเห็นพ้องต้องกันว่ายูเครนและมอลโดวานั้นผ่าน ‘เกณฑ์โคเปนเฮเกน’ แล้ว
ในขั้นต่อไปคือ การเจรจานั้นจะเกิดขึ้นในการประชุมระหว่างรัฐบาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตของรัฐบาล EU และประเทศผู้สมัคร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักข่าว CNN รายงานข้อกังวลว่า ยูเครนยังไม่ผ่านเกณฑ์โคเปนเฮเกนตามดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2021 ของ Transparency International ซึ่งยูเครนอยู่อันดับที่ 122 จากทั้งหมด 180 ประเทศ
ขณะที่ Politico รายงานว่า มีบางประเทศ EU ไม่เต็มใจที่จะให้สถานะผู้สมัครแก่ยูเครน โดยเดนมาร์กและโปรตุเกสแย้งว่า หากยูเครนไม่อยู่ในภาวะสงคราม ยูเครนจะไม่สามารถผ่านคุณสมบัติในการเริ่มต้นเจรจาเรื่องการได้รับสมาชิกภาพของ EU เลย
มารี ดูมูลิน ผู้อำนวยการโครงการ Wider Europe ของคณะมนตรียุโรปว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ECFR) เผยกับ Euronews ว่า
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องหลักนิติธรรมและการต่อสู้กับการทุจริตในยูเครน สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่แท้จริง และรัฐบาลยูเครนเองก็ตระหนักดีว่าจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไข”
ซึ่งในขณะที่ยูเครนอาจต้องการให้กระบวนการเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทางผู้นำ EU หลายคนได้เตือนแล้วว่า ไทม์ไลน์ของกระบวนการทั้งหมดจะ ‘ยาวนาน’
โดยในการกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภายุโรปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า
“เราทุกคนรู้ดีว่ากระบวนการอนุญาตให้พวกเขา (ยูเครน) เข้าร่วมจะใช้เวลาอีกหลายปี อันที่จริงอาจเป็นเวลาหลายทศวรรษ”
ภาพ: Photo by Ying Tang / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: