วานนี้ (1 ตุลาคม) กองกำลังยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนสามารถยึดคืนเมืองลีมาน (Lyman) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกคืนจากรัสเซียได้แล้ว โดยเมืองลีมานนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ยูเครนจะใช้เป็นฐานที่มั่นเพื่อตีเอาภูมิภาคดอนบาสกลับคืนมา ขณะที่การพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดได้กระตุ้นให้พันธมิตรที่ใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกมากดดันให้รัสเซียเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพต่ำโต้กลับ
การยึดคืนเมืองสำคัญนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ปูตินประกาศผนวกรวม 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนรัสเซีย ซึ่งรวมถึงแคว้นโดเนตสก์ อันเป็นที่ตั้งของเมืองลีมาน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากชาติตะวันตกที่กล่าวว่านี่คือการทำประชามติลวงโลก
โดยวานนี้ ไครีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้างานประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ได้นำคลิปวิดีโอที่กองทหารยูเครนประกาศยืนยันชัยชนะ มาเผยแพร่ลงช่องทางโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นภาพของทหารยูเครนที่ดึงธงรัสเซียทิ้ง และเชิญธงชาติยูเครนขึ้นสู่อาคารรัฐสภาเมืองลีมานแทน
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศในวันเดียวกันว่า ทางการได้ตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว โดยที่ผ่านมารัสเซียได้ใช้เมืองลีมานเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสำหรับปฏิบัติการทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความโกรธแค้นให้กับพันธมิตรของปูติน รวมถึง รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชนหรือเชชเนีย ซึ่งกล่าวว่า รัสเซียควรใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ เช่นการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ชายแดน และการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพความรุนแรงต่ำ ขณะที่ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ก็ได้ออกมากล่าวอย่างชัดเจนว่า รัสเซียควรต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์หากเกิดกรณีจำเป็น
แฟ้มภาพ: Metin Aktas / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
