รัฐบาลเคียฟประณามการกระทำของรัสเซียที่ก่อเหตุโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายในเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญติดทะเลดำทางตอนใต้ ที่กองทัพยูเครนสามารถบุกยึดคืนมาได้เมื่อไม่นานนี้ จนเป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บ 68 คน
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (24 ธันวาคม) ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอย่างเงียบเหงาทั่วประเทศ เนื่องจากไฟสงคราม
ผลจากการโจมตีทำให้อาคารของทางการและอาคารพักอาศัยใจกลางเมืองเคอร์ซอนได้รับความเสียหาย โดยคลิปวิดีโอหลังเกิดเหตุที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นร่างผู้เสียชีวิตหลายรายอยู่บนท้องถนน ขณะที่รถยนต์เกิดไฟลุกไหม้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน แถลงประณามการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นการ ‘ฆ่าเพื่อข่มขู่และเพื่อความพอใจ’ โดยจุดที่ถูกโจมตีไม่มีสถานที่หรือเป้าหมายทางทหาร
ขณะที่เขาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุนทรพจน์วันคริสต์มาสในช่วงค่ำที่ผ่านมา เรียกร้องให้ประชาชนยูเครนอดทน
“เราอดทนมาตั้งแต่เริ่มสงคราม เราอดทนต่อการโจมตี การคุกคาม การขู่กรรโชกทางนิวเคลียร์ ความหวาดกลัว การโจมตีด้วยขีปนาวุธ เรามาอดทนในช่วงฤดูหนาวนี้กันเถอะ เพราะเรารู้ว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไร เราจะฉลองวันหยุดของเราเช่นเคย เราจะยิ้มและมีความสุขเช่นเคย ความแตกต่างคือหนึ่งเดียว เราจะไม่รอปาฏิหาริย์ ท้ายที่สุด เราจะสร้างมันขึ้นมาเอง” เซเลนสกีกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า “เสรีภาพนั้นมาพร้อมกับราคาที่สูง แต่ความเป็นทาสนั้นมีราคาที่สูงกว่า”
อย่างไรก็ตาม วลาดิเมียร์ ซอลโด ผู้ว่าการภูมิภาคเคอร์ซอน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ปฏิเสธว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตี และอ้างว่าเป็นรัฐบาลเคียฟที่สั่งการให้ทหารของตนเองโจมตีภายในเมือง
“นี่เป็นการยั่วยุที่น่าขยะแขยงโดยมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนในการกล่าวโทษกองทัพรัสเซีย” เขาระบุในข้อความที่โพสต์ใน Telegram
ที่ผ่านมา มอสโกยืนกรานปฏิเสธหลายว่าไม่ได้กำหนดเป้าหมายพลเรือนในการโจมตี อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยอมรับเมื่อไม่นานนี้ว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีเป้าหมายด้านพลังงานที่สำคัญของยูเครน
ขณะที่การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวยูเครนจำนวนหลายล้านคนต้องเผชิญความลำบากจากการไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นจัดในฤดูหนาว
ภาพ: Photo by Ukrainian Presidential Press Service / Handout/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: