โฆษกนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ออกโรงให้คำมั่นว่ารัฐบาลอังกฤษจะเดินหน้าแยกตัวออกจากความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ Brexit ตามกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้แน่นอน
คำยืนยันอย่างหนักแน่นดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลจากหลายฝ่ายว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) กับอังกฤษอาจไม่สามารถบรรลุผลได้ เนื่องจากยังมีประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายไม่ลงรอยกัน บวกกับปัญหาการระบาดระลอกใหม่ที่อาจทำให้การเจรจาล่าช้า
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า หากผู้แทนเจรจาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาทางบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในสัปดาห์หน้า อังกฤษก็จะเสี่ยง Brexit แบบโนดีลทันที
ขณะเดียวกัน ด้วยกำหนดเส้นตายที่กระชั้นเข้ามา บวกกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้สมาชิกสภาอังกฤษส่วนหนึ่ง รวมถึง นิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีของสกอตต์แลนด์ ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจอห์นสันเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไป เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะพิจารณาประเด็นการเจรจาได้อย่างครบถ้วน รอบคอบ และรอบด้าน
สำหรับประเด็นหลักที่ทั้งอียูและอังกฤษยังบรรลุข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ก็คือ ปัญหาด้านการประมง ซึ่งทางรัฐบาลฝรั่งเศสระบุยังยืนหยัดในจุดยืนของตนอย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ในการทำประมงในน่านน้ำอังกฤษ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนส์เปิดเผยว่า ประเด็นหลักสำคัญในการเจรจายังคงอยู่ที่การเปิดทางให้เรือประมงของอียูเข้ามาทำประมงในเขตน่านน้ำอังกฤษ
“ข้อเสนอที่อียูให้ไปในการเจรจาครั้งก่อนคือช่วงสัปดาห์ที่แล้วถือเป็นข้อเสนอที่ใจกว้างอย่างมากที่สุดครั้งหนึ่ง” รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์กล่าว
ด้านผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ของ Citi ระบุว่า 80% ของนักวิเคราะห์ยังคงเชื่อมั่นในอังกฤษและอียู ที่จะสามารถในการบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันก่อนสิ้นปี และไม่ว่าจะ Brexit แบบมีหรือไม่มีข้อตกลง สุดท้ายแล้วเศรษฐกิจโดยรวมของอังกฤษอย่างน้อยในช่วงครึ่งปีแรก ที่กฎระเบียบการค้าใหม่มีผลบังคับใช้ จะมีผลทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษชะลอ ตัวจนกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในตลาดได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: