วานนี้ (12 มีนาคม) ทางการสหราชอาณาจักร อดีตเจ้าอาณานิคมของเมียนมา ประกาศแนะให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากเมียนมาโดยเร็ว หากไม่มีเหตุจำเป็น หลังผู้แทนสหประชาชาติประกาศเตือนว่า กองทัพเมียนมากำลังใช้ความรุนแรงก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจ
โดยความตึงเครียดและความไม่สงบทางการเมืองได้แผ่ปกคลุมไปทั่วเมียนมา หลังจากกองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับการใช้ความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น กองทัพและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงพยายามสร้างบรรยากาศของความกลัว ใช้กำลังอาวุธเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม จนทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 70 รายแล้ว
ด้านคณะกรรมการผู้แทนสภาแห่งสหภาพ (CRPH) ได้ว่าจ้างทนายความที่มีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐ เคยทำคดีที่เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) รวมถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และศาลสำคัญอื่นๆ เพื่อมาต้านและต่อกรกับสภาบริหารแห่งรัฐ ภายใต้กองทัพเมียนมา ที่พยายามสร้างความชอบธรรมในเวทีโลก
หลายฝ่ายมองว่า การประณามและประกาศมาตรการคว่ำบาตรของบรรดาประเทศที่สนับสนุนการส่งเสริมประชาธิปไตยในเมียนมา ดูท่าจะยังไม่เพียงพอต่อการตอบโต้กองทัพที่ยังคงใช้กำลังและความรุนแรง จนเป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต จึงมีการเรียกร้องให้ประชาคมโลกดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมและทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ชมคลิป: “อย่าทำร้ายผู้ชุมนุม” ซิสเตอร์แอนน์ แม่ชีผู้คุกเข่าอ้อนวอนตำรวจเมียนมา อย่าใช้ความรุนแรง
- ชมคลิป: เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข่นฆ่าประชาชน ชาวเมียนมาจึงต้องยืนหยัดเคียงข้างกัน
ภาพ: Aung Kyaw Htet / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: