Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า รัฐบาลของเขามีนโยบายที่จะผลักดันให้ประเทศเป็น Silicon Valley หรืออีกหนึ่งศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีของโลก โดยชูจุดเด่นความพร้อมในด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรและสนับสนุนเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ผู้นำของสหราชอาณาจักรกล่าวระหว่างการประชุมด้านเทคโนโลยี (Tech Conference) ที่กรุงลอนดอน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 มิถุนายน) ว่าสหราชอาณาจักรจะเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่เพื่อรักษาตำแหน่งของประเทศในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงด้านเทคโนโลยีของโลกเท่านั้น แต่ยังผลักดันให้สหราชอาณาจักรได้ก้าวต่อไปและทำให้ประเทศนี้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการเริ่มต้น เติบโต และลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี
Sunak ระบุว่าเขาตระหนักถึงความเร่งด่วนและความรับผิดชอบที่ต้องทำให้แน่ใจว่าสหราชอาณาจักรมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญ เพราะยิ่งสหราชอาณาจักรคิดค้นได้มากเท่าไรก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น โดยเขาย้ำว่าต้องการทำให้สหราชอาณาจักรเป็นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ของกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของ AI ทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของสหราชอาณาจักรที่มุ่งหวังจะแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกในเวทีของ AI ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน จากการกำเนิดของ ChatGPT ของ OpenAI และเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์อื่นๆ
นอกจากนี้สหราชอาณาจักรยังตั้งเป้าที่จะเป็น ‘Silicon Valley แห่งต่อไป’ โดย Jeremy Hunt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ได้ทำการปฏิรูปกฎระเบียบทางการเงินของประเทศหลายครั้งเพื่อส่งเสริมการลงทุน ร่วมทุน และการจดทะเบียนจากบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง
ปัจจุบันผลงานด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัทใหญ่ๆ เช่น OpenAI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Google (ซึ่งซื้อ DeepMind บริษัท AI ในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2014) และ Meta ที่เข้ามาลงทุนในด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สหราชอาณาจักรได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำโลกด้าน AI มากขึ้น รัฐบาลได้เผยแพร่เอกสารไวต์เปเปอร์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งระบุรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการสำหรับกฎระเบียบด้าน AI โดยพยายามใช้แนวทางที่ยึดตามหลักการของเทคโนโลยีมากกว่าที่จะเสนอกฎระเบียบใหม่
นอกจากนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ซีอีโอของ OpenAI, Google DeepMind และ Anthropic ได้ไปเยือนสหราชอาณาจักรและพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี Sunak เกี่ยวกับแนวทางของพวกเขาในการรับรองการพัฒนา AI อย่างปลอดภัย โดยเน้นย้ำอย่างชัดเจนว่าบริษัทคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นลำดับแรกๆ เมื่อสร้างโมเดล AI ขั้นสูง
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อบังคับที่เป็นรูปธรรมสำหรับ AI ในประเทศที่พัฒนาแล้วที่สำคัญใดๆ โดยเบื้องต้นทางสหภาพยุโรปกำลังพยายามดำเนินการด้วยกฎหมาย EU AI ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติมีกำหนดลงมติในรัฐสภาภายในสัปดาห์นี้ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นกฎหมายที่ไม่น่าจะมีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในอนาคต
รายงานระบุว่าทางการสหราชอาณาจักรได้เห็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำบางแห่งของตนเองเริ่มมุ่งหน้าแสวงหาสถานที่สำหรับเริ่มต้นธุรกิจด้านเทคโนโลยีนอกจากสหราชอาณาจักร โดยมี Arm บริษัทออกแบบชิปที่สำคัญในเคมบริดจ์เลือกที่จะจดทะเบียนในนิวยอร์กแทนที่จะเป็นตลาดลอนดอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และซีอีโอของ Revolut กล่าวว่าจะ ‘ไม่จดทะเบียน’ ในตลาดลอนดอน โดยอ้างถึงระบบภาษีที่ไม่เอื้ออำนวยและกฎระเบียบของทางราชการ
นายกรัฐมนตรี Sunak แย้งว่า สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งใน ‘สถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการขยายธุรกิจเทคโนโลยี’ โดยยกหลักฐานอ้างอิงที่ชี้ว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากสหรัฐฯ และจีน สหราชอาณาจักรถือได้ว่าเป็นประเทศที่มียูนิคอร์นมากกว่าที่อื่นใด ซึ่งโดยส่วนตัว Sunak มองว่าเป็นสถิติที่ค่อนข้างดีและเป็นฐานที่ดีสำหรับสหราชอาณาจักรในการเริ่มต้น แต่แน่นอนว่าสหราชอาณาจักรต้องทำให้ดีต่อไป ต้องผลักดันตัวเองต่อไป
ผู้นำสหราชอาณาจักรย้ำอีกว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของธุรกิจนวัตกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดของสหราชอาณาจักรมีผู้ก่อตั้งเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นจึงเป็นประเด็นที่บ่งชี้ได้ว่าสหราชอาณาจักรมีข้อได้เปรียบในแง่ของระบบวีซ่าที่ดึงดูดสิ่งที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง
อ้างอิง: