ล่าสุดทางยูฟ่าเตรียมรื้อคดีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากมีการออกมาแฉจาก แดร์ สปีเกล แบบต่อเนื่องว่า สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จงใจทำผิดกฎการเงิน ซึ่งมีสิทธิ์ถูกแบนจากการแข่งยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลถัดไป
โฆษกของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป เผยว่าทางสมาคมพร้อมที่จะตรวจสอบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง หลังจากได้รับเอกสารและอีเมลหลายฉบับ ในช่วงเวลากว่า 10 วันที่ผ่านมา จากการเผยแพร่ของ แดร์ สปีเกล นิตยสารชื่อดังของเยอรมนี โดยมีใจความสำคัญว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การบริงานของ ชีค มานซูร์ พยายามจะทำผิดกฎทางการเงิน (Financial Fair Play) ด้วยวิธีต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการควักเงินส่วนตัวให้บริษัทดูแลภาพลักษณ์นักเตะ รวมถึงการใช้สโมสรจากเดนมาร์กอย่าง นอร์ดเยลลันด์ ผลิตนักเตะแอฟริกัน เพื่อป้อนให้แมนฯ ซิตี้ ใช้งานโดยปราศจากค่าตัว และอีกประเด็นที่น่าสนใจจากการเปิดเผยครั้งนี้คือ จานนี อินฟานติโน (ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ) เคยให้ความช่วยเหลือ ในช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไปของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เพื่อให้รอดจากการลงโทษที่ร้ายแรง
ทั้งนี้หากทางยูฟ่าทำการรื้อคดีดังกล่าวมาสอบสวน และพบว่าแมนฯ ซิตี้ ทำผิดกฎจริงๆ มีสิทธิ์ที่จะถูกแบนจากการแข่งขันฟุตบอลรายการยุโรป หรือยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไป
โดยแถลงการณ์จากโฆษกยูฟ่า เผยว่า จะเปิดโอกาสให้สโมสรทำการอธิบาย และชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว “ถ้าข้อมูลดังกล่าวมีแง่มุมที่อาจเป็นประโยชน์ และแสดงให้เห็นว่ามีการทำผิดกฎ ทั้งในคดีก่อนหน้านี้ที่ปิดคดีไปแล้ว รวมถึงคดีอื่นๆ ที่อาจจะถูกนำมาสอบสวนใหม่อีกครั้ง โดยเราจะพิจารณากันไปแบบเคสต่อเคส”
ก่อนหน้านี้ทีมเรือใบสีฟ้าเคยถูกตรวจสอบในรูปแบบนี้ และพบว่ามีความผิดจริงในฤดูกาล 2014/15 ซึ่งถูกลงโทษแบบสถานเบาด้วยการปรับเงินเป็นจำนวน 49 ล้านปอนด์ และถูกตัดการส่งชื่อนักเตะสำหรับลุยเกมยุโรปจาก 25 รายชื่อ ให้เหลือเพียง 21 คน แต่ไม่ถูกแบนจากแข่งขันบอลถ้วยยุโรปแต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: