จบรอบแบ่งกลุ่มอย่างเป็นทางการสำหรับศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกประจำฤดูกาล 2022/23 ซึ่งในครั้งนี้ทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษผ่านเข้ารอบทั้งหมด 4 ทีม ประกอบไปด้วย เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เช่นเดียวกับบุนเดสลีกาที่มี 4 ทีมผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์มา ประกอบไปด้วย บาเยิร์น มิวนิก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ไอน์ทรัคท์ แฟรงก์เฟิร์ต และ แอร์เบ ไลป์ซิก โดยมี บาเยิร์น มิวนิก เป็นทีมที่โชว์ฟอร์มแกร่ง เก็บชัยชนะได้ครบ 6 นัดรวดได้ 18 คะแนนเต็มในรอบแบ่งกลุ่ม
สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายประกอบไปด้วย
แชมป์กลุ่ม
- บาเยิร์น มิวนิก
- เบนฟิกา
- เชลซี
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- นาโปลี
- เอฟซี ปอร์โต
- เรอัล มาดริด
- ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
ทีมรองแชมป์กลุ่ม
- คลับ บรูกก์
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
- ไอน์ทรัคท์ แฟรงก์เฟิร์ต
- อินเตอร์ มิลาน
- แอร์เบ ไลป์ซิก
- ลิเวอร์พูล
- เอซี มิลาน
- ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
โดยการจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยการจับสลากแชมป์กลุ่มทั้ง 8 ทีมจะถูกแบ่งออกเป็นคนละโถกับรองแชมป์อีก 8 ทีม ทำให้ไม่มีโอกาสได้พบกันเอง เช่นเดียวกับทีมจากลีกเดียวกัน
แต่ผลของรอบแบ่งกลุ่มที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จบรองแชมป์กลุ่ม ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะจับสลากพบกับ เชลซี, บาเยิร์น มิวนิก, เรอัล มาดริด หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
สำหรับยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกจะแข่งวันที่ 14-15 และ 21-22 กุมภาพันธ์ โดยนัดที่สองในวันที่ 7-8 และ 14-15 มีนาคม ในปี 2023