Ralph Hamers ซีอีโอของ UBS ธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ส่งข้อความแจ้งเตือนถึงพนักงานของตัวเองไม่ให้แชร์ความลับทางธุรกิจกับพนักงานของธนาคารคู่แข่งอย่าง Credit Suisse เป็นอันขาด แม้ว่าล่าสุด USB จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse ด้วยมูลค่า 3 พันล้านฟรังก์สวิสได้แล้วก็ตาม
“โปรดจำไว้ว่าตราบใดที่ดีลนี้ยังไม่เสร็จสิ้นลง (ตามกำหนดการจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปีนี้) Credit Suisse ยังเป็นคู่แข่งของเราอยู่ เราไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจระหว่างกัน หรือกระทำการใดๆ ล่วงหน้าได้” Hamers ระบุ
อย่างไรก็ดี บันทึกข้อความของ Hamers ได้ระบุเอาไว้เช่นกันว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของ UBS โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาและเอเชีย-แปซิฟิก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- UBS ปิดดีลเทกโอเวอร์ Credit Suisse ควัก 3 พันล้านฟรังก์สวิส หวังคลายแรงกดดันตลาด
- รัฐบาลสวิสหวังได้ข้อสรุปดีล UBS ซื้อ Credit Suisse ภายในวันนี้ ฟาก UBS ขอรัฐบาลเข้ามารับผลขาดทุนจากดีลนี้หากเกิดขึ้นในอนาคต
- เปิดปม ‘Silicon Valley Bank’ ประสบเหตุ Bank Run และถูกสั่งปิดชั่วคราว พร้อมหาคำตอบว่าวิกฤตนี้จะลุกลามแค่ไหน?
ขณะเดียวกัน Edmund Koh ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ UBS ได้เขียนข้อความอีกหนึ่งชิ้น มีใจความว่า การควบรวมกิจการจะช่วยเสริมการเติบโต และสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ UBS ซึ่งจะทำให้ UBS แซงหน้าคู่แข่งในตลาดได้ภายในชั่วข้ามคืน
“ดีลนี้นำมาซึ่งความตื่นเต้นสำหรับเรา จะช่วยให้ UBS มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง” Koh ระบุ
ด้าน Colm Kelleher ประธานใหญ่ของ UBS ออกมาส่งสัญญาณว่า แม้ว่าการควบรวมจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจให้กับธนาคาร แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเช่นกันคือการปรับลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากปัจจุบันทั้ง UBS และ Credit Suisse มีการทำธุรกิจที่ทับซ้อนกันค่อนข้างมาก และทั้งสองแห่งมีการจ้างงานรวมกันถึงเกือบ 125,000 ตำแหน่ง
โดยก่อนหน้าที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์จะเข้ามาผลักดันให้เกิดการควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์นี้ Credit Suisse มีแผนจะปรับลดพนักงานของตัวเองอยู่แล้วราว 9,000 ตำแหน่ง ซึ่งเชื่อว่าภายหลังจากการควบรวมกิจการตัวเลขของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะสูงกว่านี้อย่างแน่นอน
อ้างอิง:
