วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังไม่จบลงง่ายๆ โดย UBS Group AG ประเมินว่า อาจจะสร้างความเสียหายให้กับระบบธนาคารพาณิชย์ของจีนสูงถึง 1.5 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 2.12 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 7.8 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขาดทุนในส่วนของเงินให้กู้ยืม หุ้นกู้ และสินทรัพย์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม May Yan หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านตลาดหุ้นจีนของ UBS ประเมินว่า ด้วยทุนสำรองของแต่ละธนาคารที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์อาจจะยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ณ จุดนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุป 5 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญ จากสุนทรพจน์ ‘สีจิ้นผิง’ เปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน
- จริงหรือที่ ‘อินเดีย’ กำลังจะเป็นโรงงานของโลกแห่งใหม่ต่อจากจีน? ถึงขั้นที่การผลิต 1 ใน 4 ของ ‘iPhone’ จะย้ายมาที่นี่ภายในปี 2025
- สีจิ้นผิง ขึ้นเวที G20 เรียกร้องประชาคมโลกจับมือฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
Yan ประเมินว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนน่าจะมีการปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหารวมกันคิดเป็นมูลค่าราว 88 ล้านล้านหยวน และการสร้างเสถียรภาพให้กับภาคอสังหาเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับของจีนได้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคการเงินที่เรียกว่าแผน 16-Point เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน สำหรับรับมือกับการขาดแคลนสภาพคล่องของผู้พัฒนาอสังหา และการที่ผู้ซื้อบ้านอาจผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม UBS มองว่า หากโครงการอสังหาต่างๆ ไม่สามารถสร้างได้แล้วเสร็จ ธนาคารแต่ละแห่งมีโอกาสที่จะเผชิญผลขาดทุนมากขึ้นจากสินเชื่อบ้านที่ปล่อยออกไป
ด้าน Moody’s Investors Service กล่าวว่า ธนาคารแต่ละแห่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือ หากความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านกลับมา และช่วยให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น แต่สิ่งที่ยังน่ากังวลคือ สถาบันการเงินต่างๆ อาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านเครดิตในระยะสั้น เนื่องจากการปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาเพิ่มเติม
ขณะที่ราคาบ้านใหม่ของจีนใน 70 เมือง ดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 7 ปี โดยราคาบ้านในเดือนตุลาคมลดลง 0.37% จากเดือนก่อนหน้า และเป็นการลดลง 14 เดือนติดต่อกัน
การที่ราคาบ้านดิ่งลงต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ดึงให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
“การฟื้นตัวของตลาดบ้านอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และเรายังคงมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรมาช่วยให้ตลาดฟื้นตัวได้ในเดือนนี้” Chen Wenjing ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ China Index Holdings กล่าว
ขณะที่ยอดขายบ้านเมื่อเดือนก่อนลดลง 23% จากปีก่อน ขณะที่การลงทุนของภาคอสังหาก็ลดลง 16%
อ้างอิง: