วันนี้ (27 กันยายน) เมื่อเวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องพายุ ‘โนรู’ ฉบับที่ 8 ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นโนรู บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 490 กิโลเมตร จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 กันยายนนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันตามลำดับ โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทยในวันที่ 29 กันยายน 2565
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคมนี้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง วันที่ 28 กันยายน 2565
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดสกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: กทม. และปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา, นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล
วันที่ 29 กันยายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, นครปฐม รวมทั้ง กทม. และปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา, นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล
วันที่ 30 กันยายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, หนองคาย, ชัยภูมิ, ขอนแก่น และนครราชสีมา
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, นครปฐม รวมทั้ง กทม. และปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา, นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, ระนอง, พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน – 1 ตุลาคมนี้