การประชุมระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 กุมภาพันธ์) จบลงด้วยความตึงเครียด ส่งผลให้เหล่าผู้นำในยุโรปต้องออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความแตกแยกที่ขยายวงกว้างขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรหลัก
เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งได้พบกับทรัมป์ก่อนหน้านี้ โทรศัพท์พูดคุยกับทั้งทรัมป์และเซเลนสกีหลังเกิดการปะทะ โดยโฆษกของดาวนิงสตรีทระบุว่า นายกฯ ยืนยันการสนับสนุนยูเครนอย่างแน่วแน่ และกำลังหาทางนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของอธิปไตยและความมั่นคงของยูเครน ทั้งนี้ อังกฤษเตรียมจัดการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันนี้ (2 มีนาคม) โดยเซเลนสกีมีกำหนดเข้าร่วม ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเขาจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นกว่า ขณะที่สตาร์เมอร์เตือนทรัมป์ว่า อย่ารับข้อตกลงสันติภาพใด ๆ ที่จะเป็นการให้รางวัลแก่รัสเซียหรือพันธมิตรของรัสเซีย
ด้าน จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของทรัมป์ในยุโรป ก็เรียกร้องให้มีการประชุมสุดยอดร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และชาติยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามยูเครน โดยเน้นว่าความแตกแยกในหมู่ชาติตะวันตกจะทำให้พวกเขาอ่อนแอลง ส่วน วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ซึ่งเป็นพันธมิตรของทรัมป์ ออกมาสนับสนุนจุดยืนของสหรัฐฯ โดยโพสต์บน X ว่า ผู้นำที่แข็งแกร่งสร้างสันติภาพ ผู้นำที่อ่อนแอสร้างสงคราม วันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนหยัดเพื่อสันติภาพ แม้ว่าหลายคนจะรับไม่ได้ก็ตาม
ขณะที่ท่าทีของผู้นำยุโรปและเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายต่างตกตะลึงกับการที่สหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีอย่างรุนแรงต่อยูเครนภายใต้รัฐบาลทรัมป์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกือบ 3 ปี ที่สหรัฐฯ ในยุคของโจ ไบเดนให้การสนับสนุนยูเครนมาโดยตลอด
โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ออกมาโพสต์บน X ว่า “ไม่มีใครต้องการสันติภาพมากกว่ายูเครน และเรากำลังทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและเป็นธรรม” ส่วนเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวหลังจากพูดคุยกับเซเลนสกีว่า “มีฝ่ายที่รุกรานคือรัสเซีย และมีฝ่ายที่ถูกรุกรานคือยูเครน”
เลขาธิการ NATO มาร์ก รุตเต และผู้นำยุโรปหลายคนได้หารือกับเซเลนสกีหลังเขากลับจากการปะทะที่ดุเดือดในทำเนียบขาว กีทานาส เนาเซดา ประธานาธิบดีลิทัวเนีย กล่าวอย่างชัดเจนว่า “ยูเครน คุณจะไม่มีวันเดินเพียงลำพัง” ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนียเตือนว่า “หากยูเครนหยุดสู้ ยูเครนก็จะหายไป”
ส่วนกระแสสนับสนุนจากประเทศนอกยุโรป เช่น จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา, แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, คริสโตเฟอร์ ลักสัน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ต่างร่วมออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย
นอกจากนี้ ยังมีแรงสนับสนุนจากภายในยูเครนเอง ทั้งรัฐสภาและกองทัพที่ยังคงสนับสนุนเซเลนสกีผู้นำของพวกเขา โดย อเล็กซานเดอร์ เมเรซโก หัวหน้าคณะกรรมาธิการต่างประเทศของรัฐสภายูเครนกล่าวว่า พวกเขาภูมิใจในประธานาธิบดีของเขา ที่มีความกล้าหาญในการปกป้องยูเครน ขณะที่ สตานิสลาฟ บูนิอาตอฟ นายทหารยูเครนโพสต์ใน Telegram ว่า ทรัมป์พยายามกดดันเซเลนสกี แต่หากเขาเสนอแค่หยุดยิงชั่วคราวโดยไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม ก็จะไม่เกิดการปะทะรุนแรงแบบนี้ ส่วนนายทหารที่ใช้ชื่อว่า “อเล็กซ์” โพสต์บน Telegram ว่า “สู้จนตายก็ยังดีกว่าถูกขังในสงคราม และต้องถูกบดขยี้ซ้ำอีกในอีก 3 ปีข้างหน้า”
ภาพ: Peter Nicholls / Pool via Reuters / File Photo
อ้างอิง:
