สองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกส่งสัญญาณพักรบในสงครามการค้าที่ดำเนินยืดเยื้อมานานนับปี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน สามารถบรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทชั่วคราวในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำในที่ประชุมซัมมิต G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า ภายหลังการหารือกันนาน 2 ชั่วโมงครึ่ง ทรัมป์ยอมรับเงื่อนไขว่า สหรัฐฯ จะยังคงอัตราภาษีที่เรียกเก็บกับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่อัตรา 10% ตามเดิม โดยยังไม่เพิ่มเป็น 25% ในเดือนมกราคมปีหน้าตามเดดไลน์ที่กำหนดไว้ ส่วนข้อแลกเปลี่ยนก็คือ จีนจะยอมนำเข้าสินค้าเกษตรและพลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อลดยอดการขาดดุลการค้าระหว่างสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้เป็นเพียงการสงบศึกชั่วคราวเท่านั้น โดยหลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะเริ่มต้นเจรจาข้อพิพาททางการค้าที่ยังสะสางกันไม่ได้ ทั้งปัญหาการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
แถลงการณ์ระบุว่า จีนและสหรัฐฯ เห็นพ้องว่า การเจรจาเพื่อยุติปัญหาจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 90 วัน หากทั้งคู่ตกลงกันไม่ได้ สหรัฐฯ จะขยับพิกัดอัตราภาษีจาก 10% เป็น 25%
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ขู่จีนว่า นอกจากจะขึ้นภาษีอากรกับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว รัฐบาลอาจพิจารณาตั้งกำแพงภาษีเพิ่มกับสินค้าจีนอีก 267,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่อัตรา 10% หรือ 25% ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: