ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ อนุมัติการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลังสำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI เตือนว่าผู้ประท้วงมีแผนชุมนุมพร้อมอาวุธที่อาคารรัฐสภาในช่วงสัปดาห์ก่อนวันสาบานตนของโจ ไบเดน วันที่ 20 มกราคมนี้
กองประชาสัมพันธ์ของทำเนียบขาวชี้แจงว่า ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง จะสามารถ “เคลื่อนกำลังเจ้าหน้าที่ ยุทโธปกรณ์ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้ตามเห็นสมควร” ภายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไปจนถึงวันที่ 24 มกราคม
เมื่อไม่นานนี้ CNN ได้รายงานอ้างอิงเอกสารภายในที่ระบุว่า FBI ได้รับข้อมูลบ่งชี้ว่า กลุ่มผู้ประท้วงพร้อมอาวุธกำลังวางแผนชุมนุมบริเวณอาคารที่ทำการรัฐใน 50 รัฐทั่วประเทศ รวมถึงที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่วันที่ 16 ถึงวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไบเดน
ข่าวการชุมนุมและการประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ เป็นผลพวงจากเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภา หรืออาคาร US Capitol เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้สนับสนุนทรัมป์หลายร้อยคนบุกเข้าไปในอาคาร ทำลายข้าวของ และพยายามขัดขวางการลงมติรับรองให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสภาคองเกรส สถานการณ์ที่รุนแรงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน หนึ่งในนั้นคือตำรวจรัฐสภา
ภายหลังวิกฤตจลาจล นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ส่งจดหมายถึงทำเนียบขาว ร้องขอให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยก่อนการจัดพิธีสาบานตน พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิขยายเวลาบทบัญญัติฉุกเฉิน (Emergency Provisions) เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและท้องถิ่นเตรียมความพร้อมได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ ยังขอให้ FBI เข้ามาสรุปข้อมูลข่าวกรองและภัยคุกคามต่างๆ แบบรายวันไปจนถึงวันที 24 มกราคมด้วย
ขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิก 3 คน ประกอบด้วย คริส เมอร์ฟี, เคิร์สเตน กิลลิแบรนด์ และ มาร์ติน ไฮน์ริช ได้ส่งจดหมายถึงผู้รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อวานนี้ (11 มกราคม) เพื่อร้องขอข้อมูลเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นที่อาคารรัฐสภาแบบละเอียด
เมอร์ฟีทวีตว่า “เมื่อวันที่ 6 มกราคม เราพบว่ากองทัพสหรัฐฯ ใช้เวลาถึง 4.5 ชั่วโมงกว่าจะเข้ามาคุ้มครองอาคารรัฐสภาได้ ความล่าช้านี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเราขอให้กระทรวงกลาโหมส่งมอบข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อนำมาทบทวนและปรับปรุงแก้ไข”
ด้านทรัมป์กำลังเผชิญแรงกดดันหนัก ทั้งสังคมออนไลน์รายใหญ่เกือบทุกเจ้าพร้อมใจกันปิดบัญชีผู้ใช้ของเขา ขณะที่พรรคเดโมแครตพยายามผลักดันให้ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ฐานปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนบุกรัฐสภา
สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดในวันนี้ (12 มกราคม) ที่จะลงมติเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ เริ่มกระบวนการตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 25 หรือ 25th Amendment ซึ่งให้อำนาจรองประธานาธิบดีเข้ารักษาการตำแหน่งประธานาธิบดี หากพบว่าประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม
ภาพ: Olivier Douliery / AFP
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/news/2021/1/12/trump-approves-state-of-emergency-declaration-in-us-capital?fbclid=IwAR1ligAJzmsAj17Z_oZLzUvDHlgXwrvYP4QUAhZCA1dGI4SrfCOc_-tyG2Y
- https://www.bbc.com/news/world-us-canada-55622326
- https://thestandard.co/25th-amendment/
- https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2653876061571936