ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถชนะคดีในชั้นศาลได้ หลังถูกหลายมลรัฐในสหรัฐฯ ยื่นฟ้องถึงความชอบธรรมกรณีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อดึงงบประมาณจำนวนมหาศาลมาสร้างกำแพงป้องกันผู้อพยพในบริเวณชายแดนเม็กซิโก
ทรัมป์ถูก 16 มลรัฐในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และโคโลราโด ยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์เขต 9 ในซานฟรานซิสโก ด้วยข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญของประเทศ
รัฐเหล่านี้มองว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการโยกย้ายเงินงบประมาณเพื่อนำไปสร้างกำแพง เพราะสภาคองเกรสเป็นผู้มีหน้าที่ควบคุมการใช้จ่าย โดยโจทก์ที่ยื่นฟ้องครั้งนี้ล้วนแต่เป็นรัฐที่มีอัยการสูงสุดเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตทั้งสิ้น
หลังทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยอาศัยการตีความอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี ทำให้เขาสามารถปลดล็อกงบประมาณจำนวน 8 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อนำไปสร้างกำแพงได้ตามที่ต้องการ ซึ่งเงินจำนวนนี้มากกว่างบประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญที่สภาคองเกรสอนุมัติให้เพื่อนำไปเสริมสร้างความมั่นคงในบริเวณชายแดนทางใต้ของประเทศ
ในสำนวนฟ้องระบุว่าทรัมป์กระทำการโดยขัดต่อเจตนารมณ์ของสภาคองเกรส และใช้ข้ออ้างเรื่องวิกฤตผู้อพยพผิดกฎหมายในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เกิดการโยกย้ายเงินงบประมาณที่เดิมทีจะนำไปใช้สำหรับมาตรการป้องกันยาเสพติดตลอดจนโครงการก่อสร้างทางทหารต่างๆ ด้วยเหตุนี้มลรัฐที่ร่วมเป็นโจทก์จึงขอขึ้นศาลเพื่อปกป้องพลเมือง ทรัพยากรธรรมชาติ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของพวกเขา
นอกจากนิวยอร์ก โคโลราโด และแคลิฟอร์เนียแล้ว มลรัฐที่ร่วมฟ้องทรัมป์ประกอบด้วย คอนเนตทิคัต, เดลาแวร์, ฮาวาย, อิลลินอยส์, เมน, แมรีแลนด์, มิชิแกน, มินนิโซตา, เนวาดา, นิวเจอร์ซีย์, นิวเม็กซิโก, ออริกอน และเวอร์จิเนีย
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวว่าเขามีอำนาจและสิทธิเต็มที่ที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาผู้อพยพที่หนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
“ผมคิดว่าในท้ายที่สุดเราจะประสบความสำเร็จกับคดีความนี้ ผมมองว่าเราจะทำได้ดี ถึงแม้จะต้องต่อสู้คดีในศาลเขต 9 ก็ตาม” ทรัมป์กล่าว
นอกจาก 16 มลรัฐแล้ว สภาคองเกรสก็มีแผนจะเพิกถอนคำประกาศของทรัมป์ด้วย โดยสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมี ส.ส. เดโมแครตครองเสียงข้างมากเตรียมจะเปิดการอภิปรายเพื่อโหวตคว่ำประกาศดังกล่าว ถึงแม้ว่าทรัมป์อาจใช้สิทธิวีโต้ก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: