เป็นที่แน่นอนแล้วว่าการประชุมสุดยอดอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะจัดขึ้นในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ โดยฟินแลนด์จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ซัมมิตครั้งนี้จะเป็นเวทีซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจ ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามเย็นรอบใหม่ และความหวาดระแวงที่ประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ มีต่อการขยายอิทธิพลของรัสเซียเหนือยุโรปตะวันออกและรัฐบอลติก
ทำเนียบขาวและทำเนียบเครมลินต่างประกาศยืนยันวันเวลาและสถานที่ของซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาสูงสุดด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เดินทางไปพบปูตินที่กรุงมอสโกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่จะประชุมกันในประเทศที่ 3 และได้เลือกกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์เป็นสถานที่จัดซัมมิต
สำหรับกำหนดการที่เลือกวันที่ 16 กรกฎาคมนั้น ถือเป็นวันที่เหมาะสม เนื่องจากทรัมป์ต้องเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันที่ 11-12 กรกฎาคม ต่อด้วยการเยือนประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กรกฎาคม ขณะที่ปูตินก็มีกำหนดเข้าร่วมพิธีปิดในนัดชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
ก่อนหน้านี้ปูตินและทรัมป์เคยพบกันอย่างไม่เป็นทางการในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ต่อด้วยการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศเวียดนาม ในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเคยหารือกันทางโทรศัพท์อย่างน้อย 8 ครั้ง
ที่ผ่านมาปมขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศในซีเรีย ยูเครน และอิหร่าน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ไม่ราบรื่นนัก นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังกล่าวหารัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกิดความร้าวฉานยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทั้งทรัมป์และปูตินจึงต้องการให้ที่ประชุมซัมมิตเป็นสะพานสานความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ
แต่กระนั้นซัมมิตครั้งนี้อาจทำให้ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ เกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะอังกฤษที่ต้องการให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก ขณะที่ยูเครนซึ่งมีปัญหาพิพาทกับรัสเซียโดยตรง ก็ไม่ต้องการเห็นสหรัฐฯ หันไปจับมือกับรัสเซียเช่นกัน
อ้างอิง: