หลังรอคอยกันมานานกับการประชุมสุดยอดอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ล่าสุดรัฐบาลของสองประเทศเห็นพ้องที่จะจัดซัมมิตหลังการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในเดือนหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาสูงสุดด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เดินทางไปพบปูตินที่กรุงมอสโก
สำหรับวันและเวลาของซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์นี้ยังไม่กำหนดชัดเจน ส่วนสถานที่จัดประชุมคาดว่าจะเป็นกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันต่อผู้สื่อข่าวว่าซัมมิตระหว่างเขากับปูตินอาจจัดขึ้นภายหลังการประชุมกับผู้นำนาโต ส่วนประเด็นที่พูดคุยกันนั้นจะครอบคลุมในเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียและยูเครน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างกำลังติดหล่มสงครามกลางเมือง โดยสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้วิกฤตยืดเยื้อ สืบเนื่องจากรัสเซียให้การหนุนหลังรัฐบาลซีเรียในการปราบปรามฝ่ายกบฏ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนให้ทำสงครามกับฝ่ายรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ปูตินและทรัมป์เคยพบกันอย่างไม่เป็นทางการในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ต่อด้วยการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศเวียดนาม ในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเคยหารือกันทางโทรศัพท์อย่างน้อย 8 ครั้ง
ภายหลังการหารือระหว่างโบลตันและปูตินเสร็จสิ้นลง โบลตันแถลงต่อสื่อมวลชนว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งผมมาพูดคุยกับรัฐบาลรัสเซียถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดการประชุมระหว่างทรัมป์กับปูติน โดยผู้นำทั้งสองต้องการใช้เวทีนี้ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
“ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงความสำคัญในการนั่งลงถกปัญหาและหารือความร่วมมือ มันเป็นสิ่งที่ผู้นำทั้งสองรู้สึกว่าจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย และช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับโลก” โบลตันกล่าวเสริม
อ้างอิง: