×

จับสัญญาณร้าว ทรัมป์-เนทันยาฮู ไปตะวันออกกลาง แต่ไม่เยือนอิสราเอล เห็นต่างปมอิหร่าน-กาซา

14.05.2025
  • LOADING...

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเดินทางไปเยือนตะวันออกกลาง ในภารกิจต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่งสมัยที่ 2 โดยนอกจากการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทริปที่มีความหมายนี้ ยังฉายให้เห็นสัญญาณของรอยร้าวความสัมพันธ์กับหนึ่งประเทศพันธมิตรที่เก่าแก่และยาวนานของสหรัฐฯ​ นั่นคือ อิสราเอล

 

ภายหลังรับตำแหน่ง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นหนึ่งในผู้นำโลกที่ยิ้มแย้มต้อนรับการกลับมาสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ ด้วยท่าทีกระตือรือร้นที่สุด

 

แต่การที่ทรัมป์ เลือกไม่เยือนอิสราเอล ในขณะที่ไปเยือน 3 ประเทศในอ่าวเปอร์เซีย อย่างซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อให้เกิดคำถามใหญ่ ว่าเหตุใดเขาจึงตัดสินใจไม่แวะไปเยี่ยมพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

 

คำตอบที่มีการคาดเดา ถูกชี้ไปที่ประเด็น ‘ความไม่ลงรอย’ หรือจุดยืนในบางประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นต่างกัน เช่น กรณีของฉนวนกาซา หรืออิหร่าน 

 

โดยท่าทีของทรัมป์ ในทริปตะวันออกกลางนี้ เป็นการส่งสัญญาณอะไรถึงผู้นำอิสราเอลหรือไม่ และเป็นไปได้จริงหรือที่เขาจะถอยห่างจากอิสราเอล ทั้งที่เคยมีจุดยืนสนับสนุนกันและกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

 

คาดปมร้าว กาซา-อิหร่าน-ฮูตี

 

หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ ยังคงเดินหน้านโยบายสนับสนุนอิสราเอลในการคลี่คลายปัญหาในฉนวนกาซา

 

เขายกเลิกข้อกำหนดยุครัฐบาลโจ ไบเดน ที่จำกัดไม่ให้มีการส่งระเบิดขนาดใหญ่ไปยังอิสราเอล และสนับสนุนให้กองทัพอิสราเอล กวาดล้างกลุ่มฮามาสให้เสร็จสิ้น 

 

ขณะที่ทรัมป์ยังเห็นด้วยกับเนทันยาฮู ในการเผชิญหน้ากับอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนในภูมิภาค

 

แต่การดำเนินการที่ยืดเยื้อและยังมองไม่เห็นทางออกตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังเพิ่มการโจมตี สังหารกลุ่มฮามาสและชาวปาเลสไตน์อย่างไม่ลดละ เริ่มกลายเป็นอุปสรรคและเสียงวิจารณ์ ที่ขัดขวางแนวทางของทรัมป์ ทั้งข้อเสนอหยุดยิง และวิสัยทัศน์ที่ต้องการยึดและเปลี่ยนกาซา ให้กลายเป็น ‘ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง’ 

 

โดยทรัมป์นั้นรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของเนทันยาฮู ในการเริ่มปฏิบัติการทางทหารครั้งใหม่ในกาซา และมองว่า เป็นความพยายามที่สูญเปล่า ที่มีแต่จะทำให้การสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ยากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ NBC News อ้างข้อมูลจากนักการทูตตะวันออกกลางและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ ระบุว่าตอนนี้ สหรัฐฯ กำลังพยายามกดดันให้อิสราเอลและฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาอีกครั้ง

 

นอกเหนือจากประเด็นกาซา ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และเนทันยาฮูตึงเครียดมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงก่อนทริปเยือนตะวันออกกลาง

 

โดย NBC News รายงานว่า เนทันยาฮูรู้สึก “ไม่พอใจอย่างมาก” และประกาศจะปกป้องตนเอง หลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯ จะยุติปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อกลุ่มกบฏฮูตี ในเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของกลุ่มฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

 

อีกเรื่องคือศัตรูคู่อาฆาตอย่างอิหร่าน โดยเนทันยาฮูมองเห็นโอกาสที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ทรัมป์ไม่เห็นด้วย และสนับสนุนการทำข้อตกลง เพื่อขจัดภัยคุกคามจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านมากกว่า

 

NBC News ยังอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คน ที่ระบุว่า เนทันยาฮูไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ทรัมป์ บอกว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าอิหร่านจะได้รับอนุญาตให้เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจาอยู่หรือไม่ 

 

โดยผู้นำอิสราเอลไม่ต้องการให้ทรัมป์ทำข้อตกลงนิวเคลียร์ ภายใต้เงื่อนไขที่ทำให้อิหร่านยังคงมีศักยภาพในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

 

อิสราเอลไม่ใช่ความสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯ 

 

อิตามาร์ ไอช์เนอร์ ผู้สื่อข่าวสายการทูตของสำนักข่าว Ynet ของอิสราเอล ให้ความเห็นต่อการที่ทรัมป์ เลือกไม่เยือนอิสราเอล ว่าเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนว่า “อิสราเอลไม่ใช่ลำดับความสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯ อีกต่อไป”

 

ที่ผ่านมา อิสราเอลพึ่งพาการสนับสนุนทางการทหารและการทูตของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ก่อตั้งเป็นรัฐอิสระในปี 1948 

 

โดยผลประโยชน์ที่ลดลงของสหรัฐฯ ในขณะที่อิสราเอลเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติเกี่ยวกับการทำสงครามในกาซา ถือเป็นผลกระทบในด้านลบที่รุนแรงต่อรัฐบาลเนทันยาฮู

 

ขณะที่การตัดสินใจของทรัมป์ ในการยกเลิกข้อเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล บรรลุข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์กลับสู่ระดับปกติ โดยก้าวข้ามเงื่อนไขที่ซาอุต้องการให้อิสราเอลแก้ปัญหาข้อพิพาทกับชาวปาเลสไตน์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงผลกระทบด้านลบต่ออิสราเอล

 

โดยการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย ต่อจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน ซึ่งมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลไปภายใต้ข้อตกลงอับราฮัม ที่ลงนามในช่วงรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของเนทันยาฮู แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ เป้าหมายดังกล่าวจะต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

 

เนทันยาฮูยัน สัมพันธ์ทรัมป์ ยังดีเยี่ยม

 

ด้านเนทันยาฮูโพสต์คลิปวิดีโอแถลงการณ์บน X ปฏิเสธรายงานที่ระบุว่าช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างเขากับประธานาธิบดีทรัมป์ นั้นกว้างขึ้น และกล่าวว่าความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์นั้นยังคง ‘ยอดเยี่ยม’

 

เนทันยาฮูยังอ้างถึงถ้อยแถลงของของ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ที่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ​ และอิสราเอลยังคงดีเยี่ยม และชี้ว่าข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนที่ทรัมป์ จะเยือนตะวันออกกลางนั้นเป็นข่าวที่บิดเบือน

 

“การบิดเบือนเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอิสราเอล เกิดขึ้นในสื่อบางสำนักที่พยายามโปรโมตผู้สมัครคนหนึ่ง และเพื่อที่จะโปรโมตเขา พวกเขาต้องพูดว่า ทรัมป์และเนทันยาฮูไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว”

 

“ผมคุยกับทรัมป์ เป็นครั้งคราว ผมไม่ได้บอกว่าทุกๆ สองสามวัน แต่ผมคุยกับเขาทุกสองหรือสามสัปดาห์ คนของผมอยู่ในทำเนียบขาว รวมถึงเมื่อสองหรือสามวันก่อนด้วย พวกเขาอยู่ที่นั่น ขณะนี้ เราโชคดีที่มีประธานาธิบดีและฝ่ายบริหารที่เป็นมิตรมาก และเรากำลังพยายามประสานงานทั้งเรื่องใหญ่ๆ และเรื่องเล็กๆ น้อยๆ” เนทันยาฮูกล่าวสรุป โดยอ้างถึงการเยือนทำเนียบขาวของ รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์อิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising