ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเดินทางไปเยือนตะวันออกกลาง ในภารกิจต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่งสมัยที่ 2 โดยนอกจากการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทริปที่มีความหมายนี้ ยังฉายให้เห็นสัญญาณของรอยร้าวความสัมพันธ์กับหนึ่งประเทศพันธมิตรที่เก่าแก่และยาวนานของสหรัฐฯ นั่นคือ อิสราเอล
ภายหลังรับตำแหน่ง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นหนึ่งในผู้นำโลกที่ยิ้มแย้มต้อนรับการกลับมาสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ ด้วยท่าทีกระตือรือร้นที่สุด
แต่การที่ทรัมป์ เลือกไม่เยือนอิสราเอล ในขณะที่ไปเยือน 3 ประเทศในอ่าวเปอร์เซีย อย่างซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อให้เกิดคำถามใหญ่ ว่าเหตุใดเขาจึงตัดสินใจไม่แวะไปเยี่ยมพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
คำตอบที่มีการคาดเดา ถูกชี้ไปที่ประเด็น ‘ความไม่ลงรอย’ หรือจุดยืนในบางประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นต่างกัน เช่น กรณีของฉนวนกาซา หรืออิหร่าน
โดยท่าทีของทรัมป์ ในทริปตะวันออกกลางนี้ เป็นการส่งสัญญาณอะไรถึงผู้นำอิสราเอลหรือไม่ และเป็นไปได้จริงหรือที่เขาจะถอยห่างจากอิสราเอล ทั้งที่เคยมีจุดยืนสนับสนุนกันและกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ
คาดปมร้าว กาซา-อิหร่าน-ฮูตี
หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ ยังคงเดินหน้านโยบายสนับสนุนอิสราเอลในการคลี่คลายปัญหาในฉนวนกาซา
เขายกเลิกข้อกำหนดยุครัฐบาลโจ ไบเดน ที่จำกัดไม่ให้มีการส่งระเบิดขนาดใหญ่ไปยังอิสราเอล และสนับสนุนให้กองทัพอิสราเอล กวาดล้างกลุ่มฮามาสให้เสร็จสิ้น
ขณะที่ทรัมป์ยังเห็นด้วยกับเนทันยาฮู ในการเผชิญหน้ากับอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนในภูมิภาค
แต่การดำเนินการที่ยืดเยื้อและยังมองไม่เห็นทางออกตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังเพิ่มการโจมตี สังหารกลุ่มฮามาสและชาวปาเลสไตน์อย่างไม่ลดละ เริ่มกลายเป็นอุปสรรคและเสียงวิจารณ์ ที่ขัดขวางแนวทางของทรัมป์ ทั้งข้อเสนอหยุดยิง และวิสัยทัศน์ที่ต้องการยึดและเปลี่ยนกาซา ให้กลายเป็น ‘ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง’
โดยทรัมป์นั้นรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของเนทันยาฮู ในการเริ่มปฏิบัติการทางทหารครั้งใหม่ในกาซา และมองว่า เป็นความพยายามที่สูญเปล่า ที่มีแต่จะทำให้การสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ยากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ NBC News อ้างข้อมูลจากนักการทูตตะวันออกกลางและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ ระบุว่าตอนนี้ สหรัฐฯ กำลังพยายามกดดันให้อิสราเอลและฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาอีกครั้ง
นอกเหนือจากประเด็นกาซา ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และเนทันยาฮูตึงเครียดมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงก่อนทริปเยือนตะวันออกกลาง
โดย NBC News รายงานว่า เนทันยาฮูรู้สึก “ไม่พอใจอย่างมาก” และประกาศจะปกป้องตนเอง หลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯ จะยุติปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อกลุ่มกบฏฮูตี ในเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของกลุ่มฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
อีกเรื่องคือศัตรูคู่อาฆาตอย่างอิหร่าน โดยเนทันยาฮูมองเห็นโอกาสที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ทรัมป์ไม่เห็นด้วย และสนับสนุนการทำข้อตกลง เพื่อขจัดภัยคุกคามจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านมากกว่า
NBC News ยังอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คน ที่ระบุว่า เนทันยาฮูไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ทรัมป์ บอกว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าอิหร่านจะได้รับอนุญาตให้เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจาอยู่หรือไม่
โดยผู้นำอิสราเอลไม่ต้องการให้ทรัมป์ทำข้อตกลงนิวเคลียร์ ภายใต้เงื่อนไขที่ทำให้อิหร่านยังคงมีศักยภาพในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม
อิสราเอลไม่ใช่ความสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯ
อิตามาร์ ไอช์เนอร์ ผู้สื่อข่าวสายการทูตของสำนักข่าว Ynet ของอิสราเอล ให้ความเห็นต่อการที่ทรัมป์ เลือกไม่เยือนอิสราเอล ว่าเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนว่า “อิสราเอลไม่ใช่ลำดับความสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯ อีกต่อไป”
ที่ผ่านมา อิสราเอลพึ่งพาการสนับสนุนทางการทหารและการทูตของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ก่อตั้งเป็นรัฐอิสระในปี 1948
โดยผลประโยชน์ที่ลดลงของสหรัฐฯ ในขณะที่อิสราเอลเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติเกี่ยวกับการทำสงครามในกาซา ถือเป็นผลกระทบในด้านลบที่รุนแรงต่อรัฐบาลเนทันยาฮู
ขณะที่การตัดสินใจของทรัมป์ ในการยกเลิกข้อเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล บรรลุข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์กลับสู่ระดับปกติ โดยก้าวข้ามเงื่อนไขที่ซาอุต้องการให้อิสราเอลแก้ปัญหาข้อพิพาทกับชาวปาเลสไตน์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงผลกระทบด้านลบต่ออิสราเอล
โดยการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย ต่อจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน ซึ่งมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลไปภายใต้ข้อตกลงอับราฮัม ที่ลงนามในช่วงรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของเนทันยาฮู แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ เป้าหมายดังกล่าวจะต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
เนทันยาฮูยัน สัมพันธ์ทรัมป์ ยังดีเยี่ยม
ด้านเนทันยาฮูโพสต์คลิปวิดีโอแถลงการณ์บน X ปฏิเสธรายงานที่ระบุว่าช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างเขากับประธานาธิบดีทรัมป์ นั้นกว้างขึ้น และกล่าวว่าความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์นั้นยังคง ‘ยอดเยี่ยม’
เนทันยาฮูยังอ้างถึงถ้อยแถลงของของ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ที่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลยังคงดีเยี่ยม และชี้ว่าข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนที่ทรัมป์ จะเยือนตะวันออกกลางนั้นเป็นข่าวที่บิดเบือน
“การบิดเบือนเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอิสราเอล เกิดขึ้นในสื่อบางสำนักที่พยายามโปรโมตผู้สมัครคนหนึ่ง และเพื่อที่จะโปรโมตเขา พวกเขาต้องพูดว่า ทรัมป์และเนทันยาฮูไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว”
“ผมคุยกับทรัมป์ เป็นครั้งคราว ผมไม่ได้บอกว่าทุกๆ สองสามวัน แต่ผมคุยกับเขาทุกสองหรือสามสัปดาห์ คนของผมอยู่ในทำเนียบขาว รวมถึงเมื่อสองหรือสามวันก่อนด้วย พวกเขาอยู่ที่นั่น ขณะนี้ เราโชคดีที่มีประธานาธิบดีและฝ่ายบริหารที่เป็นมิตรมาก และเรากำลังพยายามประสานงานทั้งเรื่องใหญ่ๆ และเรื่องเล็กๆ น้อยๆ” เนทันยาฮูกล่าวสรุป โดยอ้างถึงการเยือนทำเนียบขาวของ รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์อิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/trump-heads-gulf-israel-asks-where-it-stands-2025-05-12/
- https://www.aljazeera.com/opinions/2025/5/12/is-trump-abandoning-israel-not-really
- https://www.nbcnews.com/politics/national-security/disagreements-iran-gaza-straining-trump-netanyahu-relationship-rcna205985
- https://www.newsweek.com/what-cracks-trump-netanyahu-ties-could-mean-us-support-israel-2071305
- https://www.timesofisrael.com/netanyahu-insists-ties-with-trump-are-excellent-amid-reports-of-growing-rift/