×

4 เรื่องต้องรู้ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ 2018

11.06.2018
  • LOADING...

แม้ว่าจะมีสัญญาณส่อเค้าว่าการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ หรือ ‘ซัมมิตทรัมป์-คิม’ อาจมีแนวโน้มคว้าน้ำเหลวก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้นำทั้งสองประเทศต่างเดินทางถึงสิงคโปร์และเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่การประชุมจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้

 

การประชุมครั้งนี้มีอะไรที่น่าจับตาบ้าง ลองไปดูกัน

 

 

1. การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั่วทั้งโลกจับตามองมากที่สุด

อาจเรียกได้ว่า การประชุมที่จะเกิดขึ้นนี้เป็นแสงสว่างอันริบหรี่ที่ถูกจุดขึ้นท่ามกลางปัญหาและความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยซัมมิตทรัมป์-คิมในครั้งนี้นับเป็นการนำพาผู้นำประเทศของคู่สงครามเกาหลีให้มานั่งโต๊ะเจรจาร่วมกันได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 70 ปี นับตั้งแต่ปี 1950

 

โดยมีเป้าหมายสำคัญในการค้นหากลไกที่จะรักษาสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี (และประชาคมโลก) ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งรวมไปถึงการยุติโครงการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออีกด้วย จึงนับว่าเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั่วทั้งโลกต่างเฝ้าจับตามอง

 

 

2. สถานที่จัดประชุมคืออดีตเกาะโจรสลัด ค่ายกักกันและโศกนาฏกรรมนองเลือด

ซัมมิตทรัมป์-คิมในครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาวอย่างโรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา ที่อยู่ห่างจากเกาะหลักของสิงคโปร์เป็นระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตร

 

เกาะอันเป็นสถานที่ตั้งของที่จัดการประชุมสุดยอดในครั้งนี้เคยมีประวัติศาสตร์อันดำมืด เนื่องจากเคยเป็นอดีตเกาะโจรสลัดในยุคที่การค้าขายในแถบนี้เจริญรุ่งเรือง มีการปล้นสะดม ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก

 

 

นอกจากนี้เกาะเซนโตซายังเคยถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นค่ายกักกันของเชลยศึกสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และชายหาดบนเกาะแห่งนี้ก็เคยนองไปด้วยเลือดจากการสังหารหมู่กลุ่มคนเชื้อสายจีนในสิงคโปร์ที่ลุกขึ้นต่อต้านจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เข้ามายึดครองดินแดนในแถบนี้อีกด้วย โดยการจัดการประชุมซัมมิตทรัมป์-คิมในครั้งนี้ สิงคโปร์ทุ่มงบประมาณไปกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 640 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัย

 

 

3. ประเด็นเรื่อง ‘การละเมิดสิทธิมนุษยชน’ จะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการประชุมครั้งนี้

เนื่องจากระบอบการปกครองและสภาพสังคมแบบปิดของเกาหลีเหนือ ทำให้ประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนถือว่าเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งในสังคมแห่งนี้ ซึ่งการพูดคุยถึงประเด็นนี้บนโต๊ะเจรจาถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก และอาจทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำในครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จในที่สุด

 

จากรายงานด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Human Rights Watch หรือ Amnesty International พบว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยนชนมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิทางเพศ สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา สิทธิเสรีภาพสื่อ การควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จของรัฐบาล หรือแม้แต่การบังคับใช้แรงงานเด็ก

 

 

4. ด้วยบุคลิกที่ยากเกินจะคาดเดา (Unexpectable) ของผู้นำทั้งสอง ทำให้การประเมินผลลัพธ์ของการเจรจาเป็นไปได้ยาก

สิ่งหนึ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือมีเหมือนกันคือ บุคลิกลักษณะที่ยากจะคาดเดาได้ ซึ่งอาจเป็นตัวแปรที่สำคัญที่ทำให้การประเมินผลลัพธ์ในการเจรจาครั้งนี้ยากขึ้นตามไปด้วย สื่อหลายสำนักพยายามลิสต์ประเด็นที่จะถูกพูดคุยในการประชุมสุดยอดผู้นำในครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดของเกาหลีเหนือที่สั่นคลอนความมั่นคงของประชาคมโลกมานานหลายสิบปี

 

 

นี่คือการประชุมครั้งแรกของพวกเขา การมัวแต่คาดหวังและมุ่งสนใจแต่ว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างไร เมื่อไร จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือหรือไม่ และอะไรเป็นหลักประกันทางด้านความมั่นคง สังคม และเศรษฐกิจที่ ‘สมเหตุสมผล’ และ ‘น่าเชื่อถือ’ ที่เกาหลีเหนือจะยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับอำนาจต่อรองเพียงหนึ่งเดียวที่เกาหลีเหนือมี ทั้งที่คิมจองอึนเองก็มีบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่ผู้นำเผด็จการคนแล้วคนเล่าที่ยอมโอนอ่อนให้แก่สหรัฐฯ ต่างต้องพบกับจุดจบของชีวิตแทบทั้งสิ้น ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และน่าปวดหัวมากจนอาจทำให้บรรยากาศในที่ประชุมตึงเครียดจนเกินไป

 

โดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าการเจรจาในครั้งนี้เป็นเรื่องของทัศนคติและระดับความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา โดยเขาระบุว่า “เพียงแค่ 5 วินาทีแรก เขาก็รับรู้ได้เลยว่าจะสามารถเข้ากันกับอีกฝ่ายได้หรือไม่” หากผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ผู้นำสหรัฐฯ อาจเทียบเชิญให้คิมจองอึนเดินทางเยือนทำเนียบขาวของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการหลังซัมมิตในครั้งนี้สิ้นสุดลง

 

ผลลัพธ์จะออกหัวหรือก้อย 5 วินาทีแรกของทรัมป์ขณะพบคิมจองอึนจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ฝังรากลึกบนคาบสมุทรเกาหลีนี้หรือไม่ 12 มิถุนายนนี้ จับตาพร้อมกันทั่วโลก!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X