รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเพิกถอนสิทธิในการรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยสั่งยกเลิกการรับรองในระบบ SEVP (Student and Exchange Visitor Program) ส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติใหม่ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้และกระทบต่อนักศึกษาต่างชาติที่มีอยู่เดิม ซึ่งอาจจะต้องมีการโอนย้ายสถานที่เรียนหรือสูญเสียสถานภาพทางกฎหมาย
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) กล่าวหาว่า ฮาร์วาร์ดกลายเป็น ศูนย์รวมแนวคิดต่อต้านอเมริกา ต่อต้านยิว และสนับสนุนการก่อการร้าย อีกทั้งยังมีกิจกรรมบางส่วนที่ประสานความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนอีกด้วย จึงนำมาสู่การสั่งเพิกถอนสิทธิดังกล่าว
คริสตี โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ โพสต์ข้อความบน X ว่า รัฐบาลได้เพิกถอนการรับรองในระบบ SEVP ของฮาร์วาร์ด เนื่องจาก “ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย” พร้อมเรียกร้องให้กรณีนี้เป็น ‘คำเตือน’ ต่อมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
ทางด้านฮาร์วาร์ดออกแถลงการณ์ประณามการตัดสินใจนี้ว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และระบุว่านี่เป็นการกระทำที่เป็นการแก้แค้นทางการเมือง ส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ กับรัฐบาลทรัมป์ตึงเครียดขึ้นอย่างมาก
ฮาร์วาร์ดระบุในแถลงการณ์ว่า “เรายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาความสามารถของฮาร์วาร์ดในการรองรับนักศึกษาและนักวิชาการนานาชาติ ซึ่งมาจากกว่า 140 ประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างคุณค่าให้แก่มหาวิทยาลัยนี้ และแก่ประเทศนี้อย่างมหาศาล”
การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อนักศึกษาต่างชาติจำนวนหลายพันคนที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด ข้อมูลของมหาวิทยาลัยระบุว่าปี 2024-2025 มีนักศึกษาต่างชาติลงทะเบียนเรียน 6,793 คน คิดเป็น 27.2% ของนักศึกษาทั้งหมด
ลีโอ เกอร์เดน นักศึกษาปริญญาตรีวัย 32 ปีจากสวีเดน เล่าย้อนว่า วันที่เขาได้รับจดหมายตอบรับจากฮาร์วาร์ดคือวันที่ดีที่สุดในชีวิต แต่ก่อนวันรับปริญญาไม่ถึงสัปดาห์ เขาไม่คิดว่าช่วงเวลาที่นี่จะจบลงแบบนี้ โดยเกอร์เดน ยังให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า นักศึกษาต่างชาติกำลังถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองในศึกระหว่างทำเนียบขาวกับฮาร์วาร์ด ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลดทอนความเป็นมนุษย์อย่างที่สุด
รัฐบาลได้เริ่มสอบสวนมหาวิทยาลัยหลายสิบแห่งทั่วประเทศ และสามารถบีบให้สถาบันชั้นนำหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก ยอมปรับตัวตามข้อเรียกร้องของรัฐบาล แต่ในเดือนเมษายน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกลายเป็นสถาบันที่โดดเด่นที่สุดในการแสดงจุดยืนต่อต้าน โดยประกาศว่าจะฟ้องรัฐบาลทรัมป์ หลังจากที่ได้รับข้อเรียกร้องจำนวนมากจากรัฐบาล ซึ่งต่อมาทำเนียบขาวระบุว่ารายการข้อเรียกร้องดังกล่าว เกิดจากการส่งผิดพลาด
ฮาร์วาร์ดปฏิเสธคำสั่งของรัฐบาลในหลายเรื่อง เช่น การตรวจสอบแนวคิดของนักศึกษาและบุคลากรโดยมหาวิทยาลัยยืนกรานว่า การแทรกแซงลักษณะนี้ ‘ละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ’ และเสรีภาพทางวิชาการ ซึ่งฮาร์วาร์ดจำเป็นที่จะต้องปกป้องความเป็นอิสระทางวิชาการจากอิทธิพลของรัฐบาลสหรัฐฯ
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images
อ้างอิง: