ประธานาธิบดี Donald Trump เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (8 พฤษภาคม) ถึงกรอบข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักร ข้อตกลงนี้ถือเป็นฉบับแรกของสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักร ประเทศที่เคยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่โดย Trump เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
สหรัฐฯ มีดุลการค้าเกินดุลกับสหราชอาณาจักรในส่วนของสินค้า รายละเอียดเฉพาะเจาะจงของข้อตกลงยังไม่ชัดเจนในทันที และไม่มีการลงนามเอกสารใดๆ ในระหว่างพิธีที่จัดขึ้นที่ Oval Office ซึ่ง Trump เผยว่าทุกอย่างจะชัดเจนสมบูรณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เขาระบุว่า ข้อตกลงนี้จะเปิดโอกาสให้สินค้าส่งออกของอเมริกาเข้าถึงตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น และทางสหราชอาณาจักรจะลดหรือยกเลิกอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีหลายประการ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการเลือกปฏิบัติต่อสินค้าจากสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม
ในรายละเอียดเบื้องต้นของข้อตกลง สหรัฐฯ จะยังคงเก็บภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมจากอังกฤษในอัตรา 10% ต่อไป ขณะเดียวกัน จะมีการปรับอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากอังกฤษ โดย 100,000 คันแรกต่อปี จะถูกเก็บภาษีที่ 10% ส่วนคันที่เกินจากนั้น จะถูกเก็บภาษีสูงถึง 25%”
สหรัฐฯ ชี้ว่า ข้อตกลงนี้จะสร้างโอกาสการส่งออกใหม่มูลค่ากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะเอทานอลมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ และเนื้อวัวอเมริกันอีกกว่า 250 ล้านดอลลาร์
ทั้ง 2 ประเทศยังตกลงร่วมมือกันเพื่อเปิดตลาดภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมให้มากขึ้น รวมถึงการปิดช่องโหว่ทางการค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทอเมริกันในตลาดจัดซื้อจัดจ้างของอังกฤษ และเร่งรัดกระบวนการศุลกากรสำหรับสินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ ทั้ง 2 ประเทศยังตกลงที่จะเร่งรัดขั้นตอนด้านศุลกากรสำหรับสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในขณะที่พิธีประกาศข้อตกลงการค้ากำลังดำเนินต่อไป บัญชี Truth Social ของประธานาธิบดี Trump ระบุว่า สหรัฐฯ จะคงภาษีนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรไว้ที่ 10% เมื่อถูกถามว่า อัตราภาษี 10% นี้จะกลายเป็นแม่แบบสำหรับข้อตกลงการค้าในอนาคตหรือไม่ Trump ตอบว่านี่เป็นตัวเลขที่ต่ำ พร้อมระบุว่า“บางประเทศจะต้องเสียภาษีสูงกว่านี้มาก เพราะพวกเขามีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ มหาศาล”
ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Trump กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรในอัตรา 10% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ที่เขาอ้างว่าใช้กับเกือบทุกประเทศทั่วโลก สหราชอาณาจักรยังได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้า ทั้งในกลุ่มเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ผลิตจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตลาดการเงินปั่นป่วนและเกิดกระแสวิจารณ์รุนแรง Trump ก็ถอยจากแนวทางภาษีตอบโต้ดังกล่าว พร้อมประกาศ “หยุดชั่วคราว 90 วัน” โดยกำหนดอัตราภาษีแบบเหมารวม 10% สำหรับทุกประเทศ ยกเว้นจีน Trump อ้างว่าการตัดสินใจหยุดชั่วคราวดังกล่าว เนื่องจากมีประเทศจำนวนมากติดต่อเข้ามา เพื่อเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่กับสหรัฐฯ
BOE หั่นดอกเบี้ยเหลือ 4.25%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 4.5% เหลือ 4.25% ในการประชุมล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือผู้กู้รายย่อย ธุรกิจ และประชาชนที่กำลังเผชิญกับค่าครองชีพที่สูง การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจอังกฤษโตช้า และมีความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีนำเข้าของ Trump ซึ่งกระทบการค้าระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าธนาคารกลางน่าจะลดดอกเบี้ย เพราะอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง โดยในรอบ 12 เดือนถึงเดือนมีนาคม เงินเฟ้อลดลงเหลือ 2.6% จาก 2.8% ในเดือนก่อนหน้า สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ คณะกรรมการ 5 คนจากทั้งหมด 9 คนโหวตให้ลดดอกเบี้ย อีก 2 คนอยากให้ลดดอกเบี้ยมากกว่านี้อีก และอีก 2 คนต้องการให้คงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม
BOE ระบุถึงความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าทั่วโลกกระทบแนวโน้มเศรษฐกิจ และเน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า และมีการตอบโต้จากหลายประเทศ BOE ระบุว่า ความไม่แน่นอนเหล่านี้ รวมถึงประกาศใช้ภาษีใหม่ ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของอังกฤษน่าจะมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2025/05/08/trump-uk-trade-deal-tariffs.html
- https://www.cnbc.com/2025/05/08/bank-of-england-cuts-interest-rates-heres-what-it-means-for-your-money.html