×

คำมั่นสัญญาเศรษฐกิจ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ถูกกดดัน หลังตัวเลขจ้างงานหดตัว ดันพรรคเดโมแครตได้แต้มต่อ

07.09.2025
  • LOADING...
เศรษฐกิจ สหรัฐ ทรัมป์

คำมั่นสัญญาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะรีบสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วให้กับชาวอเมริกันกำลังเผชิญแรงกดดันหนัก เมื่อข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนถึงโอกาสของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งในปีหน้า

 

จนถึงตอนนี้ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ยังสามารถอ้างได้ว่ามาตรการสำคัญที่นำมาใช้ ตั้งแต่การเก็บภาษีนำเข้าไปจนถึงการคุมเข้มการเข้าเมือง เพื่อสร้างระบบการจ้างงานให้แข็งแกร่ง

 

แต่ตัวเลขล่าสุดของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) แสดงให้เห็นว่า การเติบโตของการจ้างงานเริ่มชะลอตัวอย่างชัดเจน ในเดือนสิงหาคม นายจ้างในสหรัฐฯ สร้างงานเพียง 22,000 ตำแหน่ง ซึ่งทำลายความมั่นใจว่าภายใต้การบริหารของทรัมป์ เศรษฐกิจจะยังคงแข็งแรงเหมือนเดิม

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

โอไมร์ ชาริฟ นักวิเคราะห์จาก Inflation Insights ชี้ให้เห็นว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า และความไม่แน่นอนด้านนโยบายโดยรวม กำลังทำให้บริษัทต่างๆ ชะลอการจ้างงาน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการปรับนโยบายการจ้างงานในเร็วๆ นี้หรือไม่

 

อีกทั้งตัวเลขล่าสุด ยังกลายเป็นข้ออ้างใหม่ให้พรรคเดโมแครต ยืนยันว่า นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์อาจสร้างผลเสียมากกว่าผลดี โดย แม็กกี้ แฮสซัน วุฒิสมาชิกจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ และสมาชิกเดโมแครตอาวุโสในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ กล่าวว่า ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ธุรกิจต่างๆ ชะลอการลงทุนและการจ้างงาน สิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากการเก็บภาษีนำเข้าที่ไม่รอบคอบของทรัมป์

 

ด้าน รอน ไวเดน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐโอเรกอน แสดงความเห็นต่อไปว่า ทรัมป์ควรพิจารณาการไล่ สก็อต เบสเซ็นต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และ ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ทั้งสองคนนี้จะนำพาเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยไปมากกว่านี้

 

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งเดือน ทรัมป์ ได้ตอบสนองต่อสัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงานด้วยการปลดผู้ว่าการสำนักงานสถิติแรงงานออก และเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เพื่อให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งถัดไป พร้อมยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจจะสดใสขึ้น

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน ทรัมป์ยังบ่นว่าอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป และอ้างว่าข้อมูลเศรษฐกิจมักถูกปรับแก้หลายครั้ง ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ยังไม่ได้ถูกรวมเข้าไป

 

หลังจากนั้น เควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกันว่า ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดค่อนข้างน่าผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่ได้สะท้อนถึงแนวโน้มการผลิตและการลงทุน โดยตัวเลขเหล่านี้คาดว่าจะถูกปรับปรุงขึ้นในภายหลัง พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจยังแข็งแรงและเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงของการใช้จ่ายและลงทุน

 

อย่างไรก็ตาม หลักฐานเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่ซบเซากำลังสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงาน blue-collar ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทรัมป์เคยสัญญาว่าจะฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่กลับได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นตัวการให้หลายบริษัทชะลอการจ้างงาน

 

ยิ่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีการปลดพนักงานรวม 25,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคค้าส่งปลดพนักงานไปกว่า 12,000 ตำแหน่ง

 

เมื่อมาดูที่ผลสำรวจค่าเฉลี่ยจาก RealClearPolitics.com พบว่า ชาวอเมริกัน 42.2% เห็นด้วยกับการบริหารเศรษฐกิจของทรัมป์ ขณะที่ 54.1% ไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นช่องว่างที่ค่อนข้างกว้าง แม้ว่าชื่อของทรัมป์จะไม่ได้อยู่ในบัตรเลือกตั้งกลางปีหน้า แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส เสี่ยงทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่โกรธเคืองจากประเด็นตลาดแรงงานที่ซบเซา และเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ ย้ำว่าไม่ได้ คาดหวังว่าทำเนียบขาวจะปรับนโยบายอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อการชะลอตัวของตลาดแรงงาน แต่คาดว่า จะเป็นการพยายามโน้มน้าว Fed ปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า

 

ภาพ: Kevin Dietsch/Getty Images 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising