เมื่อวานที่ผ่านมา (11 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาตั้งคำถามกับกระบวนการรับผู้อพยพจากประเทศต่างๆ เข้าสหรัฐฯ ว่า “ทำไมเราต้องยอมให้ผู้อพยพจากประเทศเส็งเคร็ง (Shithole Countries) เช่นนี้เดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ” ซึ่งในแต่ละปีมีผู้อพยพเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ทำเนียบขาวเพิ่งจะประกาศยุติโครงการปกป้องสถานะชั่วคราวแก่ชาวซัลวาดอร์กว่า 200,000 คน ที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ และทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2001 และเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศ ตามเฮติ นิการากัว ที่ประกาศยุติโครงการไปก่อนหน้านี้แล้ว
มีอา เลิฟ (Mia Love) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเขต 4 รัฐยูทาห์ สังกัดพรรครีพับลิกัน เชื้อสายเฮติ-อเมริกัน ประณามการกระทำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังแสดงความคิดเห็นและพูดจาเชิงดูถูกเกี่ยวกับเรื่องผู้อพยพที่เดินทางมาจากเอล ซัลวาดอร์ เฮติ และประเทศอื่นๆ จากทวีปแอฟริกา
โดยมีอาเรียกร้องให้นายทรัมป์ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า สิ่งที่นายทรัมป์พูดช่างโหดร้ายและอาจก่อให้เกิดการแบ่งแยกในสังคม “สิ่งที่เขาทำไม่สามารถยอมรับได้ในฐานะผู้นำของประเทศของเรา แม้ว่าครอบครัวของฉันจะเดินทางมาจากหนึ่งในประเทศเหล่านั้น แต่ฉันก็ภูมิใจในความเป็นพลเมืองอเมริกันนี้”
การกระทำดังกล่าวของทรัมป์ปลุกกระแสต่อต้านและตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวผู้นำสหรัฐฯ ขึ้นอีกครั้ง โดยหลายฝ่ายกำลังรอคำชี้แจ้งกรณีสิ่งที่เกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ แลงก์ฟอร์ด (James Lankford) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากโอคลาโฮมา สังกัดรีพับลิกัน เผยว่า “ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง พวกเราคงรู้สึกผิดหวัง ผมไม่อยากให้เขาพูดถึงชาติอื่นๆ ในทำนองนั้น เพราะผมเชื่อว่าประชาชนจากประเทศเหล่านั้นคือภาพหนึ่งของพระเจ้า มีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกันกับเรา”
Photo: AFP
อ้างอิง: