บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ True ได้เปิดผลประกอบการของบริษัทประจำช่วงไตรมาส 2/63 โดยพบว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 33,878 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วราว 0.9% ซึ่งรายได้หลักกว่า 26,612 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากการให้บริการ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 19%
สำหรับทรู คอร์ปอเรชั่น ในช่วงไตรมาส 2 มีจำนวนผู้ใช้บริการของทรูมูฟ เอช ที่ 30.16 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบรายเดือน 9.01 ล้านราย และระบบเติมเงิน 21.15 ล้านราย ขณะที่รายได้ต่อผู้ใช้บริการต่อเดือน (ARPU) เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน และ 1% จากไตรมาสก่อนหน้าเป็น 216 บาท
ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น True ระบุว่ามีพัฒนาการเชิงบวกมากขึ้นจากการทยอยปรับราคาแพ็กเกจแบบความเร็วคงที่แต่ไม่จํากัดปริมาณดาต้า (Fixed-Speed Unlimited Data) และแพ็กเกจเติมเงินสําหรับการโทรด้วยเสียงเพื่อเพิ่ม APRU เมื่อรวมกับความต้องการใช้งาน 5G ดาต้าและธุรกรรมดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยส่งเสริมการเติบโตให้กับ TrueMove H ต่อไป
ด้าน True ออนไลน์ (อินเทอร์เน็ตบ้าน) มีรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตและฐานผู้ใช้บริการเติบโตแข็งแกร่งจากความต้องการใช้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นตามแนวโน้มการทํางานจากบ้าน ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 6.7 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีก่อน 5.7% มีจํานวนผู้ใช้บริการ ‘รายใหม่’ สุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 133,000 ราย ส่งผลให้มีฐานลูกค้าบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านราย ขณะที่ ARPU เป็น 530 บาท
ฟาก TrueVisions มีรายได้จากการให้บริการ 2.6 พันล้านบาทในไตรมาส 2 โดยได้รับผลกระทบเชิงลบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงแรม รวมถึงการจัดงานอีเวนต์บันเทิงและรายการกีฬาสดต่างๆ ที่ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องลดลง (รายได้ลดลง 12.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์