TRUE-DTAC หวัง ‘กสทช.’ เร่งออกเงื่อนไขควบรวมก่อนกระทบกรอบเวลา

ผู้บริหาร TRUE-DTAC หวัง กสทช. เร่งกำหนดเงื่อนไขควบรวม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลา พร้อมย้ำการควบรวมครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมายและสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก กสทช. ระบุ กสทช. มีอำนาจสร้างเงี่อนไขที่จะลดผลกระทบทางลบ และเพิ่มผลกระทบทางบวก

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แถลงร่วมกับ ซิกเว เบรกเก ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป บริษัทแม่ของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ในเรื่องความคืบหน้าในการควบรวมกิจการ โดยระบุว่า ปัจจุบันทั้ง 2 บริษัทอยู่ระหว่างการรอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดเงื่อนไขเพื่อลดผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในการควบรวมกิจการ

โดยยอมรับว่า ขณะนี้การควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทล่าช้ากว่าแผนเดิมภายในระยะเวลา 90 วันหลังจากที่บริษัทได้มีการยื่นแผนให้กับ กสทช. พิจารณาไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทั้ง 2 บริษัทต้องการให้กระบวนการรับซื้อหุ้นคืนเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้เดิม คือในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นใจในด้านของตลาดทุน และผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ที่มีทั้งนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกองทุนระดับโลก

“กรอบระยะเวลาได้เลื่อนมาพอสมควรแล้ว แต่เราก็เข้าใจทาง กสทช. ด้วย เพราะเป็น กสทช. ชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม เราก็อยากจะเห็นว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นเร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อตลาดทุนและความมั่นใจของตลาดทุน ซึ่งผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝั่ง มีทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนระดับโลกที่เขารออยู่ การควบรวมจะทำให้บริการตลอดจนอินเทอร์เน็ตดีขึ้น ครอบคลุมขึ้น เร็วขึ้น ลูกค้าของทั้ง 2 องค์กรก็จะได้ประโยชน์ เราไม่ได้มีเจตนาจะกดดัน กสทช. แต่เราเองก็ยอมรับว่ามีความกดดันอยู่” ศุภชัยกล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการควบรวมกิจการ สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ระหว่าง TRUE และ DTAC จะใกล้เคียงกันที่ราวๆ 30% ส่วน China Mobile น่าจะถือหุ้นราว 10% ส่วนสัดส่วนที่ชัดเจนจะเป็นเท่าไรบ้าง ต้องรอดูหลังกระบวนการเทรนเดอร์หุ้นแล้วเสร็จ

ศุภชัยกล่าวเพิ่มว่า สำหรับความกังวลว่าภายหลังควบรวมกิจการกันแล้ว มีส่วนแบ่งทางการตลาดเกิน 50% นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากแต่ละปี TRUE และ DTAC มีลูกค้าข้ามค่ายกว่า 30% เมื่อรวมแล้วการทับซ้อนจะหายไป ซึ่งประเมินว่าส่วนแบ่งทางการตลาดหลังควบรวมกิจการ ส่วนแบ่งทางการตลาดน่าจะอยู่ที่ 47-48%

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH