ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ หยิบกลยุทธ์การตลาดมาเอาใจผู้บริโภค ต้องยกให้อุตสาหกรรมการสื่อสาร ยิ่งช่วงปีที่ทั่วโลกเจอกับวิกฤตโควิด ถือเป็นโอกาสทองที่ทุกแบรนด์ต้องหา ‘จุดยืน’ ที่แข็งแกร่งของตัวเองให้เจอ จะด้วยการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสูงสุด หรือแคมเปญการตลาดเจ๋งๆ หรือบางค่ายใช้ช่วงเวลาที่ผ่านมาพลิกโฉมแบรนด์ พร้อมปรับภาพลักษณ์ใหม่เสียเลย
คุณกำลังนึกถึง True 5G เหมือนกันใช่หรือไม่?
ถ้าคำตอบคือใช่ นี่เป็นบทพิสูจน์ข้อแรกของทรูที่สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูพรีเมียมระดับเวิลด์คลาสผ่านเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย ไปจนถึงแคมเปญปังๆ จนทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นที่จดจำ
THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถึงกลยุทธ์การตลาดแบรนด์ จนสามารถสร้างปรากฏการณ์มากมายและคว้ารางวัลใหญ่บนเวทีระดับโลก ซึ่งโอลิเวอร์ย้ำว่า “รางวัลไม่ใช่เครื่องหมายของความสำเร็จ มันเป็นแค่สัญลักษณ์ที่บอกให้เรารู้ว่าทรูมาถูกทางแล้ว”
อาจเป็นเพราะเริ่มต้นมาจากแนวคิดที่ดีของทรูที่ไม่ยอมจำกัดบทบาทตัวเองให้เป็นแค่โครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงลูกค้า ธุรกิจ และการสื่อสารเท่านั้น แต่ต้องเป็นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่สร้างคุณค่าให้กับลูกค้า
ทรู สลัดภาพลักษณ์การเป็นเพียงผู้ให้บริการสัญญาณมือถือ และเลือกที่จะเดินหน้าธุรกิจ ด้วยการมองหาทุกความเป็นไปได้ภายใต้ความสามารถไร้ขีดจำกัดขององค์กรและนวัตกรรมที่มี รวมถึงเครือข่ายที่ดีที่สุดในทุกยุคสมัย เพื่อจะเป็นสัญญาณที่รับใช้ประชาชนคนไทย สัญญาณที่รับใช้ประเทศชาติ และเป็นสัญญาณที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ
เทคโนโลยีที่ดีต้องเป็นเทคโนโลยีที่สร้างคุณค่า สร้างประโยชน์ให้กับคนได้สูงสุด
โอลิเวอร์เล่าว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทีมแบรนด์ ทรูทำงานอย่างหนัก เพราะเรากำลังสลัดภาพลักษณ์อีกครั้ง เพื่อสยายปีกโทรคมนาคมสู่การเป็น Digital Lifestyle Ecosystem ที่ครบวงจร ครบทั้งการสื่อสาร ความบันเทิง ข่าวสาร ประสบการณ์ใหม่ๆ คุณภาพชีวิตที่ดี และความอัจฉริยะด้าน IoT ไปจนถึงสเกลระดับภาคธุรกิจคือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตมนุษย์
“ความครบวงจรของเราเกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์และนวัตกรรม ปลายทางก็เพื่อสร้าง Digital Lifestyle Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันถูกสั่งสมมาจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่อยากให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการแข่งขันทัดเทียมนานาประเทศ ผ่านบริการที่หลากหลาย อย่าง TrueMoney ซึ่งเป็น Digital Banking ที่คนรุ่นใหม่ทุกคนต้องใช้ ตอนนี้ TrueMoney ก็เป็นยูนิคอร์นของประเทศ มีลูกค้าใช้งานเกิน 20 ล้านราย”
นี่ยังไม่รวมการสร้างพื้นที่เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ อย่าง TrueSphere, Ture Digital Park ไปจนถึง Privilege ดีๆ สิทธิพิเศษต่างๆ ใน True Black Card, True Point และเพื่อ Complete Digital Lifestyle ที่แท้จริง ทรูลงทุนทำกล่อง TrueID TV ดิจิทัลมีเดียแพลตฟอร์มเพื่อให้คนไทยเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพและหนังดีๆ กว่า 1,000 เรื่อง
“แม้ช่วง 2-3 ปีนี้ ภาพลักษณ์ของทรูมีความเป็นเวิลด์คลาสมากขึ้น แต่โดยแก่นแท้ของทรู เราก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่ผลักดัน Customer Delight ให้ลูกค้าทรูมีความสุข อยู่กับเราแล้วสบายใจ และเป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นในการสร้าง Customer Centric ให้โดดเด่นขึ้น มอบมูลค่าที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ เรื่องพวกนี้ถูกกรุยทางมาโดยตลอด
“และการจะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้สังคมน่าอยู่คงเลี่ยงการทำ CSR หรือการทำตลาดเพื่อรับใช้สังคมไม่ได้ ผมพูดเสมอว่า หาก SCG สร้างฝาย PTT ปลูกป่า True จะขอทำหน้าที่ปลูกปัญญา เป็นลมใต้ปีกขับเคลื่อนคนไทยให้เข้าถึงแหล่งความรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมถึง Empower คนไทยผ่านสื่อกลางทางความรู้ต่างๆ ในทุกรูปแบบที่ทรูมอบให้
“การเซ็นสัญญาเป็น Eco-Partnership กับอีกค่ายมือถือ เป็นการขยับตัวที่สร้างความท้าทายให้กับแบรนด์มาก เพราะเท่ากับว่าทรูต้องให้ความสำคัญการบริหารการตลาดด้วยความรับผิดชอบและเอาลูกค้าเป็นที่ตั้งมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคย่อมได้ประโยชน์ที่สุด เพราะการผนึกกำลังกันครั้งนี้เป็นการเสริมแรงซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างคุณค่าร่วม”
โอลิเวอร์สรุปให้ฟังได้อย่างน่าสนใจว่า True to Tech ไม่ใช่แคมเปญเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นคำมั่นสัญญาของแบรนด์ ที่เข้ากล้าบอกเช่นนั้นเพราะมัน ‘Come True’ มันเกิดขึ้นจริง
“คำมั่นสัญญาของเราที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เราทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง และยังทำให้มันอัจฉริยะยิ่งขึ้น เติมเต็มประสบการณ์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคำว่า True to Tech จึงถูกสอดแทรกอยู่ในทุกก้าวเดินของทรูมาโดยตลอด
“เพราะทรูเติบโตมาจากการเป็น True Convergence ทุกคนรู้ว่าการอยู่กับทรูคุ้มค่ามากกว่าหากใช้บริการของทรูในหลากหลายผลิตภัณฑ์ จนถึงวันนี้ทรูผลักดันไปสู่การเป็น Intelligent Convergence แปลว่าเราต้องเร่งเครื่องตัวเองโดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นกลไกสร้างความสมบูรณ์ทั้งระบบมากขึ้น”
‘imma’ ตอกย้ำการนำนวัตกรรมมาเสริมแกร่งสู่ World Class Brand
ข่าวการเปิดตัว ‘imma’ สร้างปรากฏการณ์พร้อมประกาศเซ็นสัญญาให้เธอมาเป็น Metaversified Brand Ambassador ของแบรด์ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำและความพร้อมที่จะก้าวสู่ Tech HUB และ Digital Lifestyles
“การมาของ imma สอดคล้องกับการที่ทรูเป็น Visionary Brand ในเมื่อเราต้องการเป็น World Class Standard ดังนั้น imma เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ที่คิดว่าเหมาะกับสถานการณ์นั้น เราอาจไม่ใช่ผู้นำของนวัตกรรม Metaversified แต่เรามาด้วยความพร้อมที่จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนมากกว่า จะเห็นว่า imma สามารถเคลื่อนไหวได้ มีความสด เสมือนจริง และมีภาษา จริต รวมถึงบรรยากาศของการนำเสนอที่ลงตัว”
โอลิเวอร์อธิบายเพิ่มเติมว่า imma ยังแสดงให้เห็นว่า ในวันที่ทรูประกาศพันธกิจที่จะสร้าง ‘อัจฉริยภาพเพื่อโลกใหม่ที่ยั่งยืน’ หรือ ‘Sustainable Intelligence’ เพราะเชื่อและมองเห็นในเรื่องการบริหารความสมดุล และเชื่อว่าแบรนด์เทคโนโลยีทำหน้าที่บริหารความยั่งยืนได้ imma คือตัวแทนของสิ่งเหล่านั้น
จะว่าไปนี่ไม่ใช่เกมแรกที่ทรูดินเกมได้อย่างฉลาด เพราะได้วางรากฐาน ‘อัจฉริยภาพเพื่อโลกใหม่ที่ยั่งยืน’ เอาไว้แทบทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายแรกที่นำสัญญาณ 5G ไปใช้กับแวดวงทางการแพทย์ในเรื่อง Telemedicine ผลักดันคุณค่าของเทคโนโลยีให้เป็นมากกว่าแค่การสื่อสาร หรือการทำแคมเปญ ‘Come True with Ture 5G’ หลังจากที่กระจายสัญญาณเครือข่ายครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย ส่งมอบคำมั่นสัญญาที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นจริงทั้งในโลกการศึกษา โลกสาธารสุข และโลกของความยั่งยืน ต่อยอดไปสู่แคมเปญ ‘ใครๆ ก็ใช้ทรู’ และ ‘ยุคนี้ต้อง True 5G’ ทั้งหมดนี้คงจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปีที่ผ่านมาทรูคว้ารางวัล Superbrands และ Top Brand ในหมวด Mobile Operator จาก Influential Brand รวมไปถึง หมวดรางวัล Outstanding Leaders อีกด้วย
โอลิเวอร์บอกว่า นี่เป็นรางวัลของคนไทยทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจ “ยิ่งเราได้รับรางวัลมันยิ่งต้องทำให้เราทำงานให้หนักขึ้น และเร่งพัฒนาการบริการลูกค้าหรือคุณภาพของสัญญาณยิ่งทำให้เข้มข้นมากขึ้น รางวัลแค่ตอกย้ำว่าเรามาถูกทาง แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เราทำสำเร็จเสมอไป ความสำเร็จต้องอยู่ที่ลูกค้าได้รับคุณค่าและมีความสุขที่อยู่กับทรู เมื่อลูกค้ามีความสุข แบรนด์ก็จะมีความสุขไปด้วย”
True 5G NFT Art โปรเจกต์สานต่อ “อัจฉริยภาพเพื่อโลกใหม่ที่ยั่งยืน’
หลังจากเปิดตัว imma ไม่ทันไรทรูก็เปิดโปรเจกต์ใหม่ จับมือกับ Benzilla ครีเอเตอร์ชื่อดังเจ้าของผลงาน Street Art ยุคใหม่ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดล้ำภายใต้แนวคิด Sustainable Intelligence และยังเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของวงการ Telco ไทย ที่มีเปิดประมูลผลงาน NFT เพื่อนำรายได้มอบให้กับมูลนิธิโลกสีเขียว ตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ยังคงมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
“จริงๆ แล้วต้องบอกว่า ศิลปะที่เราสร้าง NFT ไม่ใช่เพราะมันเป็นกระแสหรือเทรนด์เราถึงทำ แต่ภายใต้โปรเจกต์นี้เรามอง NFT เป็นเครื่องมือและเป็นสัญลักษณ์ที่ดีในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคว่าเรามีจุดยืนด้านอัจฉริยภาพเพื่อโลกใหม่ที่ยั่งยืน ที่สำคัญเรากำลังอยู่ในยุคที่ศิลปะเป็นการบำบัดและสินทรัพย์ทรูจึงมองเห็นบรรยากาศของการทำการตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ว่าถึงเวลาที่เราจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้าใจและเปิดเวทีให้ศิลปินรุ่นใหม่สร้างคุณค่าของงานศิลปะและส่งมอบความสุขนั้นให้กับคนไทย และต้องการนำศิลปะมาเป็นสัญลักษณ์ของการทำตลาดที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย”
ส่วนประเด็นเรื่องการนำรายได้จากการประมูลไปมอบให้กับมูลนิธิโลกสีเขียวก็เป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นเรื่องความยั่งยืนได้อย่างชัดเจน “คำว่ามูลค่าสูงของทรูไม่ได้วัดกันที่มูลค่าที่ตีเป็นเงิน แต่ทรูวัดว่ามันสร้างคุณค่าอื่นๆ ได้จริงหรือไม่ เงินที่ได้จากการประมูลผลงาน NFT ในครั้งนี้จะถูกส่งต่อไปยังมูลนิธิโลกสีเขียว ผมว่ามันมีคุณค่ามากกว่ามูลค่าของงานศิลปะที่แปลงเป็นค่าเงิน เพราะมูลค่าของงานศิลปะมันผันแปรไปตามยุคสมัยและคุณค่าที่แต่ละคนเห็น แต่มูลค่าที่เรานำไปต่อยอด”
อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรูทำเรื่อง Sustainable Intelligence พิสูจน์ได้อีกเช่นกันจากรางวัลระดับโลก DJSI มาครองถึง 4 ปีซ้อน ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของกลุ่มโทรคมนาคมโลก และเป็นบริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากทั่วโลกที่ขึ้นอันดับ 1 ถึง 4 ปีซ้อน เป็นผลลัพธ์จากการทำตลาดอย่างรับผิดชอบและมั่นใจว่าเราบริหารสมดุลระหว่างสังคม สิ่งแวดล้อม และการสร้างเทคโนโลยีที่มีความหมายให้กับผู้คน
ทรูส่งสุขท้ายปี เตรียมมอบของขวัญชุดใหญ่ให้คนไทย
ใครที่ผ่าน ทรูช็อป สยามสแควร์ ซอย 2 ตอนนี้ คงเห็นจอ True 5G ILLUMI-TECH LED Billboard สุดล้ำที่มีหนุมานตัวใหญ่ทำท่าทางราวกับกำลังพุ่งทะลุจอตรงเข้ามาสร้างรอยยิ้มให้ใครก็ตามที่หยุดทักทาย โอลิเวอร์บอกว่า “นี่คือของขวัญที่ทรูมอบให้คนไทยและคนทั่วโลกครับ
“เราเพิ่งเปิดตัว ‘HANUMAN META: THE ETERNAL POWER’ เพื่อมอบความสุขให้คนไทยมีแต่พลังบวกไม่รู้จบด้วยคอนเซปต์ ‘TRUE 5G TO THE WORLD, THAILAND STANDS WITH YOU’ เคียงข้างคนไทยให้ฝ่าฟันทุกขีดจำกัด และก้าวสู่วันข้างหน้าด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม เช่นเดียวกับหนุมาน
“ที่เลือกหนุมานเป็นสัญลักษณ์ในการเปิดตัวความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โควิดทำให้พวกเราต้องปรับตัว หนุมานเป็นตัวแทนของ Power Agility & Resilience ที่ปรับตัว ยืดหยุ่น พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ของชีวิต ทรูจึงนำศิลปะแบบไทยๆ ที่มีความเป็นสากลมาเป็นสัญลักษณ์ของการส่งมอบความสุขให้คนไทยและคนทั่วโลกได้ไปต่อ”
HANUMAN META ยังเคยไปส่งมอบความสุขให้คนทั่วโลกมาแล้วในงาน World Expo ที่ดูไบ โอลิเวอร์ยังเผยว่า สิ้นปีนี้เตรียมพบหนุมานในเวอร์ชันสุดพิเศษเพื่อต้อนรับปี 2022 และก้าวสู่โลกอนาคตไปด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘2022 SEASON GREETING, TRUE TO TECH. THE FUTURE IS TRUE’
และเหมือนทุกปีทรูขอทำหน้าที่ส่งความสุขท้ายปีเพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2022 กับงานฉลองเคาท์ดาวน์ที่ไอคอนสยาม “ปีนี้ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเราคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็รับความสุขที่เราส่งมอบให้ได้ผ่าน TrueID ที่จะถ่ายทอดสดการจุดพลุ เรายังเตรียมกิจกรรมที่เรียกว่าวงล้อความสุข ให้ลูกค้าทรูร่วมชิงทองคำและรางวัลอีกมากมาย สามารถเล่นเกมผ่าน TrueID ได้เช่นกัน”
ยังคุ้มได้อีกกับแคมเปญ ‘อยู่กับ ทรูคุ้มกว่า ได้มากกว่า ทั้งลด ทั้งแจก มือถือ 5G 100,000 เครื่อง’ โอลิเวอร์บอกว่า เพื่อให้คนไทยเข้าถึงสมาร์ทโฟน 5G พร้อมรับกับความเร็วและแรงของสัญญาณที่ครอบคลุมที่สุด ลูกค้าทุกค่ายสามารถกดสิทธิ์เพื่อลุ้นรับรางวัลได้เช่นกัน
และสุดท้ายกับบทเพลง คบกันดีสักทรู ชื่อเพลงอารมณ์ดีที่แอบหยอดให้คนไทยลองมา ‘คบกันดูสักที’ ที่ได้ แสตมป์ อภิวัชร์ และ แว่นใหญ่ มาร่วมกันแต่งทำนองและเนื้อร้อง
“ของขวัญชิ้นนี้ทรูตั้งใจจะสื่อสารกับลูกค้า True มามีความสุขไปด้วยกัน หรือลูกค้าที่ไม่ได้ใช้ทรูก็อยากให้ลองเปิดใจมาอยู่ด้วยกัน เพราะอยู่กับ ทรูครบกว่า ดียิ่งกว่า และสิทธิประโยชน์มากกว่า และจริงๆ เรายังแอบซ่อนความหมายในชื่อเพลงตรงคำว่า ‘คบ’ ก็อยากสื่อความของคำว่า ‘ครบ’ ด้วยเช่นกัน เชื่อว่าใครที่ได้ฟังต้องชอบ”
เชื่อแน่ว่าปีหน้าคงได้เห็นอะไรสนุกๆ จากแบรนด์ที่อยากให้คนไทยใช้นวัตกรรมที่อยู่ในมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นแคมเปญสนุกๆ ที่ต่อยอดจากปี 2021 และเชื่อว่าอีกไม่น้อยจะเกิดขึ้นจากไอเดียสดใหม่และหัวใจของคนทรูที่เดินหน้าด้วยพันธกิจเดียวกัน นั่นคือการสร้าง ‘อัจฉริยภาพเพื่อโลกใหม่ที่ยั่งยืน’
