สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัย (PMU) ทั้ง 9 แห่ง และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงข่าวการจัดงาน ‘มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2567 (TRIUP FAIR 2024)’ ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2567 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
งานนี้จะเป็น One Stop Service ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกันครั้งใหญ่ของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้ 5 กระทรวง คือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนหน่วยงาน Intermediaries ที่รวมบริการให้ภาคเอกชนแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้ทุนวิจัย เงินกู้เพื่อขยายการลงทุน หน่วยวิเคราะห์ทดสอบ หน่วยรับรองมาตรฐาน หน่วยพัฒนาธุรกิจ หน่วยส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงช่องทางการสื่อสารสาธารณะต่างๆ
ภายในงานจะมีระบบติดตาม สนับสนุน และเชื่อมโยงกลไก กับหน่วยงานต่างๆ ตลอด 3 ปี รวมทั้งจะนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมพร้อมใช้จริงกว่า 150 ผลงาน แบ่งเป็น 4 ธีม ได้แก่
- การแพทย์และสุขภาพ
- เกษตรและอาหารมูลค่าสูง
- Net Zero Emissions
- เทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology)
พร้อมเปิดพื้นที่เจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างเจ้าของผลงานวิจัยกับผู้ประกอบการและนักลงทุน, บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากหน่วยงานรัฐและเอกชนกว่า 50 หน่วยงาน, เวทีเสวนาและการอบรมต่างๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและนักวิจัย โดยวิทยากรทั้งในและต่างประเทศกว่า 40 ท่าน, กิจกรรม Audition คัดเลือกผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้เข้าร่วมรายการ Shark Tank Thailand รวมทั้งการจำหน่ายสินค้านวัตกรรม เพื่อกระตุ้นการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของไทย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า กสว. มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของประเทศให้บรรลุเป้าหมายภายใน 2-3 ปี ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และองคาพยพในระบบ ววน. ในการทำให้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมถูกนำไปใช้และเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ช่วยยกระดับความสามารถของภาคอุตสาหกรรม สร้างรายได้ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในประเทศ
นอกจากนี้การมีพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 (Thailand Research and Innovation Utilization Promotion Act: TRIUP Act) กสว. ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการด้านการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย จำนวนกว่า 2.1 พันล้านบาท ในปีงบประมาณ 2567 และกว่า 2.5 พันล้านบาท ในปีงบประมาณ 2568 ทั้งนี้ได้ผลักดันการดำเนินงานอีก 2 เรื่องหลัก ได้แก่
- การรวบรวมบัญชี Appropriate Technology ขณะนี้รวมได้กว่า 1,300 รายการ และได้ดำเนินการจับคู่เรียบร้อยแล้ว
- การรวบรวมจำนวน Invention Disclosure ปัจจุบันมี 276 รายการที่ได้ยื่นต่อผู้ให้ทุน ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือเกิดการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสังคมเพิ่มมากขึ้น
ด้าน เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การยกระดับอุตสาหกรรมไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น การต่อยอดและการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ากับกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาและลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและเท่าทันต่อความต้องการของผู้บริโภคและรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
“ผมขอขอบคุณ สกสว. ที่ให้เกียรติ ส.อ.ท. ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคอุตสาหกรรม ร่วมเป็นพันธมิตรหลักในการจัดงาน TRIUP FAIR 2024 ผมเชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการและภาคเอกชนได้พบกับผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พร้อมใช้ได้จริง และจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยด้วยการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยต่อไป นอกจากความร่วมมือในการจัดงาน TRIUP FAIR แล้ว ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าดำเนินโครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ ซึ่งเป็นกลไกในการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และฝีมือด้านเทคโนโลยี ให้เติบโตได้ภายในประเทศ และสามารถก้าวไปแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ โดยจะเชื่อมต่อธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมเข้ากับ SMEs ภาคอุตสาหกรรมในเครือข่ายสมาชิกของเราที่ต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับนโยบาย ONE FTI ของ ส.อ.ท. ในวาระปี 2567-2569 ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติงานในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย
ด้านกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ กรรมการบริหารหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยยึดการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา องค์กรภาครัฐหรือภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการใช้งานจริง และสำหรับงาน TRIUP FAIR 2024 ในครั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะภาคีเครือข่าย ได้ร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้กับสมาชิกและเครือข่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้า หรือ YEC ร่วมให้ความเห็นและความต้องการที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมองว่าการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการขยายผลขององค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย โดยที่ผ่านมาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการร่วมกับ YEC และสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศและสังคมโดยรวม
รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว., ส.อ.ท., หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, หน่วยงานภาคี ได้แก่ PMU, มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย และหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลหนุนเสริมผู้ประกอบการ ได้ร่วมกันจัดงาน TRIUP FAIR ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในครั้งนี้นอกจากแสดงศักยภาพผลงานวิจัยและนวัตกรรมไทยแล้ว ยังมุ่งเน้นการแก้ปัญหาและลดอุปสรรคการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
“งาน TRIUP FAIR จะเป็นพื้นที่รวมระบบนิเวศด้านการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักลงทุน และเจ้าของผลงานวิจัย ได้สร้างเครือข่าย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนแนวคิดและต่อยอดความรู้ เพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืน พบกันที่ TRIUP FAIR 2024 ‘Impact Journey to Ignite Thailand’”
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนและติดตามข้อมูลการจัดงานได้ที่ www.triupfair.net หรือสอบถามได้ที่ [email protected]