Trezor บริษัทผลิตฮาร์ดแวร์วอลเล็ตชื่อดังประกาศว่าจะผลิตชิปซิลิคอนของตัวเอง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ และลดปัญหาการขาดแคลนชิปจากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก
หลังจากที่บริษัทใช้เวลาหลายเดือนในการวิจัยและพัฒนา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Trezor ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะผลิตชิปซิลิคอนของตนเอง ขณะนี้ทาง Trezor ได้ลงทุนและสร้างโรงงานผลิตชิปที่ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
บริษัทจะเริ่มอำนวยความสะดวกในการผลิตส่วนประกอบตัวห่อหุ้มชิปรุ่น Model T ขณะที่รุ่นอื่นๆ ใช้ชิปที่แตกต่างกัน และยังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตชิป อย่างไรก็ตาม Trezor วางแผนที่จะผนวกรวมชิปสำหรับรุ่นในอนาคต เพื่อให้ชิปทั้งหมดสามารถใช้งานร่วมกับชิปใหม่ได้
Štěpán Uherík ซีเอฟโอของ Trezor ระบุว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับห่วงโซ่อุปทานซิลิคอนและกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นเหตุผลสำคัญของการพัฒนาครั้งนี้
การลงทุนผลิตชิปซิลิคอนเองนั้น จะช่วยลดความล่าช้าในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ และปกป้องผู้บริโภคจากความผันผวนของราคาตามอุปสงค์และอุปทานของชิป ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบมากมายจากสถานการณ์โควิด และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
การจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลในรูปแบบฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hard Wallet) ได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างมากทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นับตั้งแต่การล่มสลายของ FTX ความต้องการผลิตภัณฑ์ Trezor ได้เพิ่มขึ้นกว่า 300% เนื่องจากนักลงทุนต้องการย้ายคริปโตเคอร์เรนซีจากแพลตฟอร์มซื้อขายแบบรวมศูนย์ไปจัดเก็บในที่ปลอดภัยมากขึ้น
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- TSMC เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
- TSMC ระงับการส่งซิลิคอนขั้นสูงให้ผู้ผลิตชิปในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนข้อบังคับของสหรัฐฯ
- จีนอวดสายการผลิต ‘Photonic Chip’ เป็นครั้งแรก เตรียมเดินเครื่องผลิตภายในปี 2023
อ้างอิง:
