วันนี้ (27 เมษายน) ประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์, กรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่, พิสิษฐ นิ่งน้อย รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5, ปรานอม ไชยจูกุล ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ ประจำศาลอุทธรณ์ภาค 5, พร้อมด้วย ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ, บัณรส บัวคลี่ และ ลักขณา ศรีหงส์ ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีรับมอบคืนพื้นที่ 85 ไร่ และบ้านพักจำนวน 45 หลัง
ประภาศกล่าวว่า วันนี้ทางกรมธนารักษ์ได้รับมอบพื้นที่บ้านพักจำนวน 45 หลัง ซึ่งในส่วนของรายละเอียดเรื่องจำนวนครุภัณฑ์นั้นในส่วนของธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่, ศาลยุติธรรม รวมทั้งกองทัพบก จะต้องเข้ามาร่วมดูแลในรายละเอียดว่าครุภัณฑ์มีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ให้ตรงกับจำนวนซึ่งมีกว่า 1,866 รายการ จากนั้นจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ เช่น หากหน่วยราชการใดต้องการนำไปใช้ประโยชน์จะมีการดำเนินการต่อไป แต่หากไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็จะจำหน่ายออก
สำหรับการดำเนินการต่อไปในส่วนของบ้านพักจำนวน 45 หลัง บนพื้นที่ 85 ไร่ จะรื้อถอนหรือปล่อยให้รกร้างนั้นก็จะเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีการตั้งขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการเรียกร้องในครั้งนี้ ส่วนคอนโด 9 หลังก็จะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนต่อไป
ด้านธีระศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ขอบคุณศาลและธนารักษ์ที่ทำให้วันนี้ได้รับมอบพื้นที่ป่าแหว่งคืนมา แม้จะเป็นพื้นที่ส่วนบน ขั้นตอนต่อไปจะทำพิธีปลูกป่า ช่วงประมาณต้นเดือนมิถุนายน และอาจจะมีพิธีฮองขวัญ (เรียกขวัญ) ดอยสุเทพ ส่วนบ้านพักจำนวน 45 หลังที่หลายฝ่ายอยากทราบว่าจะมีการรื้อหรือไม่นั้น ตามมติของเครือข่ายฯ คือต้องทำการรื้อออกเท่านั้น
“เราเคยพูดว่าเราขอให้รื้อบ้านพักตุลาการลงจากดอยสุเทพเท่านั้น แต่ติดขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ตอนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์แล้ว ก็จะมีกติกาและมีมติของคณะกรรมการว่าให้รื้อตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่หากไม่สามารถทำได้ก็จะฟ้องศาลปกครอง ว่าให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี คือต้องรื้อบ้านจำนวน 45 หลัง รวมถึงคอนโด 9 หลังนี้ด้วย” ธีระศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ คอนโดจำนวน 9 หลัง ทางธนารักษ์ยังไม่ได้รับมอบคืนพื้นที่ จะมีเพียงบ้านพักจำนวน 45 หลังเท่านั้น โดยทางเครือข่ายจะให้เวลาไปศาลอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 7 กันยายน 2565 เนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ลำปาง ครม. มีมติขอให้อยู่คอนโดต่อไปก่อน จนกว่าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เชียงรายจะสร้างเสร็จ ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนกันยายนนี้
แต่ปัญหาคือการก่อสร้างที่จังหวัดเชียงรายคืบหน้าไปเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น มีปัญหาเรื่องยุติสัญญา, การปรับผู้รับเหมากว่า 59 ล้านบาท จึงคาดว่าการก่อสร้างจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ และจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะแล้วเสร็จ แต่เครือข่ายก็จะยึดตามสัญญาในวันที่ 7 กันยายน 2565 โดยอาจจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโด 9 หลัง ทยอยย้ายออกไป และจะทำการขอคืนพื้นที่ต่อไป
ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ