×

จับตา 3 หมวดหุ้น ‘ท่องเที่ยว ขนส่ง อาหาร’ ราคายืนบวกสวนตลาดใน 5 วันทำการที่ผ่านมา

21.06.2022
  • LOADING...

ช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา (14-20 มิถุนายน 2565) ตลาดหุ้นไทยโดยภาพรวมปรับตัวลดลง โดยดัชนี SET -2.55% ขณะที่ดัชนี mai -3.53% จากการรวบรวมข้อมูลจาก SETSMART พบว่า ท่ามกลางการปรับตัวลงของตลาด มีหุ้นอยู่ 3 หมวดที่ยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ คือ หมวดท่องเที่ยว (TOURISM) +3.41%, หมวดขนส่ง (TRANS) +1.40% และหมวดอาหาร (FOOD) +0.21% 

 

สำหรับหมวดท่องเที่ยว หุ้นที่ปรับขึ้นแรง ได้แก่ VRANDA +10.2%, ROH +8.1%, DUSIT +6.4% หมวดขนส่ง ได้แก่ KEX +15.0%, PSL +8.6%, BA +3.8% และหมวดอาหาร ได้แก่ TFG +25.5%, CPI +20.5% และ PLUS +11.9% 

 

ขณะที่หุ้นในตลาด mai ทั้ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรมต่างปรับตัวลดลงทั้งหมด

 

ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นทั้ง 3 หมวดที่ว่านี้ น่าจะยังโดดเด่นกว่าตลาดต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง จากประเด็นบวกเฉพาะตัวในแต่ละอุตสาหกรรม 

 

สำหรับหมวดท่องเที่ยว ได้แรงหนุนจากการเปิดเมือง และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ทำให้ผลประกอบการของกลุ่มนี้น่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกและจากปีก่อนด้วย 

 

หมวดส่งออกอาหาร ได้อานิสงส์จากการที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจจะลากยาว หลังกลุ่มประเทศในยุโรปเริ่มวางแผนในการนำพลังงานถ่านหินกลับมาใช้ สะท้อนว่าสถานการณ์อาจลากยาวไปถึงปีหน้า ทำให้วิกฤตการขาดแคลนอาหารอาจลากยาวเช่นกัน ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทน่าจะยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ทางเลือกของนักลงทุนในการเลือกหุ้นส่งออกอาจเหลือไม่มากนัก เพราะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อาจถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก 

 

ด้านหมวดขนส่ง โดยหลักได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง แต่กลุ่มนี้อาจจะเด่นน้อยกว่าอีก 2 หมวดข้างต้น เพราะมีความเสี่ยงในเรื่องของราคาน้ำมันที่อาจจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไป 

 

“หากเทียบจากทั้ง 3 กลุ่ม กลุ่มท่องเที่ยวมีโอกาสจะเล่นต่อไปจนถึงปีหน้า ขณะที่อีก 2 กลุ่ม ยังต้องติดตามปัจจัยเฉพาะตัว คือเรื่องของเงินบาทและราคาน้ำมัน”  

 

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่หุ้นใหญ่จะเด่นกว่าหุ้นเล็ก เนื่องจากเสถียรภาพของกำไรที่ต่างกัน ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทขนาดเล็กมักจะมีความสามารถในการรักษากำไรและบริหารต้นทุนได้แย่กว่า ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลงช่วงนี้ สะท้อนถึงภาวะเก็งกำไรที่ลดลง ซึ่งมักจะกระทบต่อหุ้นเล็ก

 

ด้าน เบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่า หากภาวะตลาดดี หุ้นทั้ง 3 หมวดน่าจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่านี้ โดยรวมแล้วทั้ง 3 อุตสาหกรรมได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้แรงหนุนจากการเดินหน้าเปิดประเทศเต็มตัวในเดือนกรกฎาคมนี้

 

“ส่วนตัวมองว่าหุ้นสนามบิน สายการบิน ขนส่งในประเทศ และโรงแรม ยังได้ Sentiment บวกในระยะสั้น ส่วนหนึ่งจากราคาหุ้นที่ Laggard ก่อนหน้านี้ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่อาจได้อานิสงส์จากวันหยุดยาว 2 ช่วงในเดือนกรกฎาคม” 

 

หากมองภาพตลอดทั้งครึ่งปีหลัง หุ้นสนามบินน่าจะเด่นไปจนถึงปลายปี เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น ขณะที่สายการบินกับโรงแรมยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องติดตาม เช่น เศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจกระทบต่อนักท่องเที่ยวจากยุโรป ส่วนสายการบินอาจถูกกดดันจากต้นทุนราคาน้ำมัน 

 

ด้านหมวดอาหาร ในระยะสั้นได้อานิสงส์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนต่อเนื่อง และภาวะขาดแคลนอาหารที่ยังไม่จบลง แต่หากปัญหา Supply Disruption ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่อุปสงค์จะลดลงจากราคาที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ ก็มีโอกาสที่หุ้นอาหารจะถูกกระทบในช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ปีนี้

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising