ทีมศัลยแพทย์กว่า 11 ชีวิตประจำมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบส์กิน ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดปลูกถ่ายองคชาต ถุงอัณฑะ รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณช่องท้องให้กับทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ นายหนึ่ง ที่ระบบสืบพันธุ์และเนื้อเยื่อช่องท้องได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดในสนามรบที่อัฟกานิสถาน โดยทีมแพทย์ใช้เวลาในการปลูกถ่ายนานกว่า 14 ชั่วโมง นับเป็นการปลูกถ่ายอวัยวะสืบพันธ์ุและเนื้อเยื่อบริเวณช่องท้องที่ประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก
ทหารคนดังกล่าวได้รับการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ จากร่างของผู้เสียชีวิตที่ไม่ประสงค์ออกนาม อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์เจ้าของเคสยืนยันว่าจะปลูกถ่ายแค่อวัยวะสืบพันธุ์ ถุงอัณฑะ และเนื้อเยื่อบริเวณช่องท้องเท่านั้น ส่วนของอัณฑะทั้งสองข้างของผู้บริจาคจะไม่ได้รับการปลูกถ่ายในการผ่าตัดครั้งนี้ เนื่องด้วยเหตุผลทางด้านศีลธรรมและจริยธรรมทางการแพทย์ เพราะภายในอัณฑะยังคงมีเซลล์อสุจิของผู้บริจาคเดิมอยู่
ดร.แอนดรู ลี หนึ่งในทีมศัลแพทย์เผยว่า “การสูญเสียประสิทธิภาพและความสามารถในการสืบพันธ์ุคือบาดแผลจากสงครามที่ไม่ถูกกล่าวถึง ซึ่งส่งผลถึงอัตลักษณ์ การเคารพ ความเชื่อมั่นในตนเอง และความสัมพันธ์ต่างๆ รอบตัว”
ขณะที่ ดร.ริก เรเดตต์ หัวหน้าศัลยแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะสืบพันธ์ุกล่าวว่า “พวกเราทุกคนหวังว่าการผ่าตัดในครั้งนี้จะช่วยทำให้ระบบปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ของเขากลับมาทำงานได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป นั่นเป็นเป้าหมายระยะยาวที่เราตั้งไว้ สำหรับคนไข้ของเราทุกคน” ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลารักษาราว 6 เดือนถึง 1 ปี และกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ภายในอาทิตย์นี้
เมื่อปี 2006 หนุ่มชาวจีนได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายองคชาตเป็นคนแรกของโลก ก่อนที่ผลการผ่าตัดครั้งนั้นจะล้มเหลวในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา ก่อนที่ทีมแพทย์ของแอฟริกาใต้จะปลูกถ่ายองคชาตได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ช่วยชีวิตหนุ่มแอฟริกันวัย 21 ปีที่ทรมานจากวัฒนธรรมการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
และในปี 2016 ที่ผ่านมา นายโธมัส แมนนิง คือชายคนที่ 3 ของโลกและเป็นชายคนแรกของสหรัฐอเมริกาที่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดปลูกถ่ายองคชาต หลังทีมแพทย์จำเป็นต้องตัดทิ้งเนื่องจากกลายเป็นมะเร็งร้าย นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นในวงการแพทย์
อ้างอิง:
