คณะผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และจีนกลับมาเจรจากันอีกครั้งเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) โดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่า การพูดคุยจัดขึ้นในหลายระดับ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่มีการเจรจา
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับ Fox News Radio ว่า การพูดคุยระหว่าง 2 ฝ่าย จัดขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยมีหลายระดับ แต่เขาไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าหลายระดับนั้นหมายถึงอะไร เพียงแต่บอกให้รอดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น แล้วค่อยตัดสิน
คำพูดของทรัมป์สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่เปิดเผยกับ CNBC ว่า สหรัฐฯ และจีนยังคงสื่อสารกันอยู่ในหลายระดับ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์อ้างว่า จีนได้ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อขอรื้อฟื้นการเจรจาและทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่า ไม่เคยต่อสายถึงสหรัฐฯ ตามที่ทรัมป์กล่าวอ้างแต่อย่างใด
แต่กระนั้น ท่าทีของจีนอ่อนลงเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า จีนมีเจตนารมณ์ที่จะยุติสงครามการค้าด้วยทัศนคติที่สงบ พร้อมยืนยันว่า จีนจะยังไม่ออกมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีชุดใหม่ของทรัมป์ในทันที ขณะเดียวกันก็ยืนยันด้วยว่า คณะผู้แทนของ 2 ฝ่าย ยังคงติดต่อสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สงครามการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ กลับมาปะทุเดือดเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หลังจีนประกาศขึ้นภาษีกับสินค้าสหรัฐฯ รวมมูลค่าการค้า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ทรัมป์ประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการขึ้นภาษีกับสินค้าจีนครอบคลุมมูลค่าการค้า 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่สัญญาณบวกล่าสุดจากฝั่งสหรัฐฯ และจีน ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลไปได้มาก ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียทั่วภูมิภาคเช้านี้ โดยดัชนี Shanghai Composite ตลาดหุ้นจีนขยับขึ้น 0.23% หลังเปิดตลาด ขณะที่ดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้น 0.69% แม้มีแรงกดดันจากวิกฤตการประท้วงและข่าวการจับกุม โจชัว หว่อง แกนนำปฏิวัติร่ม ขณะที่ดัชนี Nikkei ตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 1.35% เช่นเดียวกับดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.9% โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในประเทศอย่าง Fanuc ผู้ผลิตหุ่นยนต์ญี่ปุ่น และ SK Hynix ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งทะยานขึ้น 3.26% และ 6.41% ตามลำดับ
ภาพ: ShutterStock
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: