ยักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นดั่งสัญลักษณ์ของร้านของเล่น Toys “R” Us ได้หายไปจากวงการค้าปลีกของอเมริกาอีกครั้ง ด้วยการปิดร้านที่มีเพียง 2 แห่งไปเรียบร้อยแล้ว
“ผลจากโควิด-19 ทำให้เราตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ร้านค้าของเราไปยังสถานที่และแพลตฟอร์มใหม่ที่มีการเข้าชมที่ดีขึ้น” Tru Kids หน่วยงานที่ได้มาซึ่งทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์ในระหว่างการชำระบัญชีของยักษ์ค้าปลีกในปี 2018 กล่าว “ความต้องการของผู้บริโภคในหมวดของเล่นและ Toys “R” Us ยังคงแข็งแกร่ง และเราจะลงทุนในช่องทางที่ลูกค้าต้องการสัมผัสกับแบรนด์ของเราต่อไป”
Toys “R” Us ได้หวนกลับมามีหน้าร้านอีกครั้งในช่วงปลายปี 2019 โดย Tru Kids ได้เปิดหน้าร้านขึ้นมาใหม่ 2 แห่งด้วยกัน คือ ห้างสรรพสินค้า Garden State Plaza ของ Unibail-Rodamco-Westfield ในเมืองปารามูส์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ และแห่งที่สองที่ The Galleria ของ Simon Property Group ในฮูสตัน
แม้หน้าร้านจะถูกปิดไปแล้ว แต่สินค้าของ Toys “R” Us ยังคงมีจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Amazon.com และ Tru Kids ยังคงได้ลิขสิทธิ์แบรนด์สำหรับไปยังร้านค้าในตลาดอื่นๆ สำหรับร้านค้าแบบดั้งเดิมนั้น Tru Kids ระบุว่า อาจกลับมาได้อีกครั้งในบางสถานที่
The NPD Group รานงานว่า ยอดขายของเล่นในสหรัฐฯ ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 16% เป็น 2.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7.52 แสนล้านบาท การเติบโตนี้มาจากการที่พ่อแม่หันมาซื้อของเล่นให้เด็กๆ ที่ต้องอยู่ในบ้านอันเนื่องมาจากวิกฤตสุขภาพ แต่ส่วนแบ่งการขายจำนวนมากได้ย้ายไปทางออนไลน์แทน
ผู้บริโภคจำนวนมากหลีกเลี่ยงร้านค้าแบบดั้งเดิมในช่วงที่มีการแพร่ระบาด และหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นแทน ร้านค้าปลีกตามห้างสรรพสินค้าได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่ผู้ซื้อจะปรับตัวเพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่ห้างสรรพสินค้า โดยคาดการณ์ว่าอาจมีการปิดร้านค้ามากถึง 10,000 แห่งในสหรัฐฯ ด้วยกัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสถิติเลยทีเดียว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: